In News

คาร์ม็อบแปดริ้วบุกเข้าถึงเสาธงศาลากลาง หลังขับบีบแตรรอบเมือง



ฉะเชิงเทรา-คาร์ม็อบแปดริ้วมาอีก คราวนี้แหวกทะลุถึงเสาธงศาลากลาง อ้างจะขอร้องเพลงเคารพธงชาติ หลังขับบีบแตรชูสามนิ้ววนทั่วเมืองทั้งชั้นในและวงรอบนอกของตัวจังหวัดฉะเชิงเทราถึงสองตลบ ขณะ จนท.เข้าเจรจาขอพื้นที่ไข่แดงคืน สุดท้ายยอมถอย ก่อนเดินทางแยกย้ายกันกลับบ้านไปในที่สุดเมื่อช่วงก่อนพลบค่ำ

วันที่ 7 ส.ค.64 เวลา 15.30 น. ได้มีกลุ่มมวลชนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขับขี่เดินทางมารวมตัวกันยังที่บริเวณด้านหลังศาลาจตุรมุข (ศาลาไทย) ด้านฝั่งตรงข้ามศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อมาร่วมกันทำกิจกรรมแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์เป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ด้วยการขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ พร้อมการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการบีบแตรและชูมือสามนิ้วไปทั่วทั้งตัวเมืองฉะเชิงเทรา



ซึ่งในวันนี้มีมวลชนเดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมด้วยรถจักรยานยนต์ประมาณ 80 คัน และรถยนต์ประมาณ 30-40 คัน ขับวนไปยังภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ตามเส้นทางสายเดิมที่เคยขับวนไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนในรอบแรก และกลับเข้ามาเลี้ยวเข้าสู่ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ถนนหน้าเมือง ถนนเรืองวุฒิ เข้าสู่ด้านหลังศาลาไทยฝั่งตรงข้ามศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ในเวลาประมาณ 16.15 น.

จากนั้นในเวลา 17.00 น. กลุ่มคาร์ม็อบได้เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณด้านหลังศาลาไทยอีกครั้ง และพากันขับรถข้ามฝั่งแม่น้ำบางปะกงมายังฝั่งท่าข้ามตามเส้นทางถนนศุขประยูร ก่อนเลี้ยวขวาที่บริเวณสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 เข้าสู่ถนนสายเลี่ยงเมือง (365) และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง เข้าสู่ถนนเทพคุณากร ผ่านหน้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร และเข้าสู่ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ที่บริเวณวงเวียนหลัง ม.ราชภัฏราชนครินทร์ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าเมือง และเข้ามายังถนนเรืองวุฒิ

จากนั้นได้มาเข้ายังสนามหน้าศาลากลางจังหวัด ที่บริเวณโคนเสาธงชาติหน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ในเวลาประมาณ 17.45 น. ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำกรวยยางมาปิดล้อมไว้ เนื่องจากมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ประดิษฐานอยู่กลางลานสนามหน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา โดยกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองยังคงมีการบีบแตร และชู 3 นิ้วเป็นสัญลักษณ์อยู่ตลอดเวลา 

พร้อมกับชูแผ่นป้ายกระดาษที่เขียนอักษรย่อด่ารัฐบาล และขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และข้อความต่อว่าถึงการบริหารงานของรัฐบาล โจมตีวัคซีนโควิด 19 ที่รัฐบาลจัดหามาว่าเป็นวัคซีนจีนแดง โดยหลังจากกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองแหวกแนวกรวยยางที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้ปิดล้อมกันพื้นที่เขตหวงห้ามไว้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.อรรณพ จันทร์ภักดี สวป. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงได้เข้าไปเจรจากับผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวในวันนี้ 

เพื่อขอคืนพื้นที่หวงห้าม โดยขอให้ออกไปจากพื้นที่จุดที่มีการปิดกั้นแนวเขตเอาไว้ โดยที่ฝ่ายของมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหว ได้อ้างว่าจะขอเข้ามาร้องเพลงเคารพธงชาติในเวลา 18.00 น. ก่อนที่จะมีการเจรจากันประมาณ 10 นาที กลุ่มนักเคลื่อนไหวบางส่วนจึงได้ยอมทยอยขับรถออกไปในเวลา 17.55 น. และสลายตัวกลับบ้านไปจนหมดในเวลา 18.30 น.

สำหรับกลุ่มที่ออกมาขับรถเคลื่อนไหวในรูปแบบคาร์ม็อบในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนชายหรือกลุ่มวัยรุ่น ที่มีการแสดงออกด้วยการเบิ้ลเครื่องยนต์ของรถจักรยานยนต์อยู่ตลอดเวลา และมีบางคนยังคงสวมเสื้อช็อปสำหรับใช้ฝึกปฏิบัติงานของวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสถาบันอาชีวศึกษาที่มีชื่อเสียงของจังหวัด โดยที่มีกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวและวัยกลางคนเข้ามาร่วมเพียงบางส่วน

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา