Travel Sport & Entertain
OUTRIGGER Hospitality ได้แต่งตั้ง 'คริส ลอง'ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป
กรุงเทพฯ-OUTRIGGER Hospitality Group ได้แต่งตั้ง คริส ลอง (Chris Long) ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม OUTRIGGER Phi Phi Island Resort ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
Chris เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 พร้อมประสบการณ์ด้านการบริหารกับ OUTRIGGER เกือบหนึ่งทศวรรษ และพื้นฐานการทำงานจากบทบาทระดับอาวุโสทั้งด้านการครัว และการดำเนินงานในมัลดีฟส์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแต่งตั้งครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับและปรับโฉมรีสอร์ทสู่โรงแรมระดับห้าดาว ที่ผสานความงดงามตามธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้ และแนวคิด Barefoot Luxury เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ในฐานะผู้นำด้านการครัวและการดำเนินงานที่ได้รับการยอมรับ Chirs ได้สร้างเส้นทางอาชีพบนแนวคิดการบริการที่ยึดถือกับบริบทของสถานที่ หลังจากทำงานกับ OUTRIGGER ในตำแหน่งบริหารระดับสูงด้านการครัวเป็นเวลากว่าเก้าปี เขากลับมาสู่เอเชียอีกครั้งในบทบาทผู้จัดการทั่วไปเป็นครั้งแรก พร้อมประสบการณ์อย่างกว้างขวางด้านการบริหารรีสอร์ทบนเกาะ การคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่น และการผสานอัตลักษณ์ด้านอาหารเข้ากับประสบการณ์ของผู้เข้าพัก แนวคิดการทำงานของเขามุ่งเน้นการบริการที่มีความหมาย เรียบง่าย และจริงใจ ซึ่งสอดคล้องอย่างเป็นธรรมชาติกับผังการออกแบบของรีสอร์ท ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตอันสงบของหมู่บ้านไทยดั้งเดิม และบรรยากาศของทะเลอันดามัน
“OUTRIGGER เป็นส่วนสำคัญที่หล่อหลอมเส้นทางอาชีพของผม และการได้กลับมาทำงานในเอเชียอีกครั้งในบทบาทนี้ก็ให้ความรู้สึกราวกับการได้กลับบ้าน เกาะพีพีเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสานวัฒนธรรม ภูมิประเทศ และชุมชนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการนำเสนอการบริการในสไตล์ที่ผ่อนคลาย ใกล้ชิดท้องถิ่น และเชื่อมโยงกับเกาะแห่งนี้อย่างแท้จริง” กล่าวโดย Chris
ภายใต้การนำของ Chris แนวคิด Barefoot Luxury ของรีสอร์ทถูกถ่ายทอดผ่านทุกมิติของประสบการณ์การเข้าพัก โรงแรมตั้งอยู่บนหาดแหลมตง บริเวณปลายเหนือของเกาะพีพีดอน และสามารถเดินทางถึงได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น ผู้เข้าพักจะก้าวขึ้นจากเรือสู่ผืนทรายโดยตรง ก่อนเดินตามเส้นทางร่มรื่นไปยังห้องสวีทและวิลล่าจำนวน 63 ยูนิต ซึ่งจัดวางอย่างธรรมชาติตามวิถีชีวิตแบบหมู่บ้าน การออกแบบพื้นที่โดยรวมเอื้อให้ผู้มาเยือนได้ใช้ชีวิตอย่างช้าลง และเชื่อมโยงกับภูมิทัศน์โดยรอบอย่างใกล้ชิด ขณะที่เขาค่อย ๆ หล่อหลอมรูปแบบการบริการ ประสบการณ์ด้านอาหาร และกิจกรรมสำหรับผู้เข้าพัก เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการ
ความยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การดำเนินงานภายใต้การบริหารของ Chris โดยรีสอร์ทได้จัดตั้งสวนครัวของเชฟทั่วทั้งพื้นที่ เพื่อปลูกผักและวัตถุดิบสดใหม่สำหรับใช้ภายในโรงแรม พร้อมเป้าหมายในระยะยาวในการโยงรีสอร์ทเข้ากับวัตถุดิบและงานฝีมือที่ผลิตและเพาะปลูกในประเทศไทย ความร่วมมือกับชาวประมงพื้นบ้านกลุ่มอูรักลาโวยจ (Urak Lawoi) พวกเขาจะช่วยนำวัตถุดิบจากการจับปลาในแต่ละวันมาสู่ห้องอาหารของโรงแรม ขณะที่กาบมะพร้าวจะถูกนำมาแปรรูปเป็นถ่านสำหรับการย่างอาหาร ระบบหมุนเวียนที่ใช้การเลี้ยงไก่จะช่วยลดขยะอาหารและเสริมความอุดมสมบูรณ์ให้กับสวนครัว และสระว่ายน้ำแบบใช้น้ำจืดได้เข้ามาแทนที่การใช้คลอรีน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การสื่อสารด้านความยั่งยืนกับผู้เข้าพักจะดำเนินไปอย่างกลมกลืน โดยให้ข้อมูลผ่าน QR Code แทนการสื่อสารเชิงรณรงค์เชิงรุก
อาหารจะมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและภูมิประเทศของรีสอร์ท โดยห้องอาหาร Mala Kitchen นำเสนอรสชาติอาหารใต้เป็นหัวใจหลัก ผ่านครัวแบบเปิดและประสบการณ์การปรุงอาหารสดในช่วงอาหารเช้า ขณะที่ห้องอาหาร Edgewater Bar & Grill มอบบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยเตาย่างแบบเปิด การปรุงอาหารสดต่อหน้าผู้เข้าพัก และการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก ห้องอาหารทั้งสองแห่งจะตอกย้ำความเชื่อมโยงระหว่างภูมิทัศน์ ชุมชน และอาหารอย่างชัดเจน
นอกเหนือจากประสบการณ์ด้านอาหาร รีสอร์ทยังนำเสนอโปรแกรมกิจกรรมที่สะท้อนมรดกทางวัฒนธรรมและความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศบนเกาะพีพี ผู้เข้าพักสามารถออกสำรวจภูมิทัศน์ทางทะเลของอุทยานแห่งชาติผ่านกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับน้อย เข้าร่วมคลาสทำอาหารไทยริมทะเล หรือเรียนรู้ศิลปะการร้อยลูกปัดที่สืบทอดจากชุมชน Urak Lawoi ด้านสุขภาพและการผ่อนคลายจะถูกร้อยเรียงผ่าน Zeavola Spa สปาซึ่งนำเสนอทรีตเมนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพิธีกรรมแบบทางภาคใต้ ผสานกับบรรยากาศอันสงบและผ่อนคลายที่โอบล้อมรีสอร์ท
“ความยั่งยืนควรเป็นสิ่งที่รู้สึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การสั่งสอน เมื่อผู้เข้าพักได้เข้าใจที่มาของอาหาร ได้พบปะผู้คนที่เป็นเบื้องหลังวัตถุดิบเหล่านั้น และสัมผัสถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลายรอบตัว เกาะแห่งนี้ก็จะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกของการเชื่อมโยงอย่างเป็นธรรมชาติ คือสิ่งที่ผมหวังว่าพวกเขาจะได้รับกลับไปด้วย” กล่าวเสริมโดย Chris
การบริการจะขับเคลื่อนผ่านระบบผู้ดูแลประสบการณ์ผู้เข้าพักโดยเฉพาะ (Guest-experience host system) โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมงานที่มีบุคลากรซึ่งทำงานกับพื้นที่มาอย่างยาวนานและมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเกาะ แนวทางดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ OUTRIGGER ในการมอบการบริการที่ผ่อนคลายแต่ใส่ใจในทุกรายละเอียด และดำเนินให้เป็นไปตามธรรมชาติของหาดแหลมตง
OUTRIGGER Phi Phi Island Resort เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอในประเทศไทยที่กำลังเติบโตของแบรนด์ ซึ่งครอบคลุมจุดหมายปลายทางอย่างเกาะสมุย เขาหลัก และภูเก็ต รีสอร์ทแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดแบบไทย ‘นิทรา (Nit Thra)’ หรือจิตวิญญาณแห่งการพักผ่อน พร้อมเปิดประสบการณ์ที่เฉลิมฉลองงานหัตถศิลป์ท้องถิ่น อาหารภาคใต้ และความงดงามที่ได้รับการอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา–หมู่เกาะพีพี
