In News

ร้อยเอ็ดชวน'ผู้สูงวัย-กลุ่มเสี่ยง-คนท้อง' เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด



ร้อยเอ็ด-พ่อเมืองร้อยเอ็ดเชิญชวนคนร้อยเอ็ดที่มีอายุ60ปีขึ้นไปกับ7กลุ่มโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปมาฉีดวัคซีนให้มากที่สุดเพื่อป้องกันการเสียชีวิต

วันพุธที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ร่วมกับคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดร้อยเอ็ด (ศปก.จ.รอ) ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมนี้ได้มีการประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting ไปยังส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีนายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด  นายสนอง ดลประสิทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด  นายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดร้อยเอ็ด (ศปก.จ.รอ) เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้มีการหารือในวาระสำคัญ ดังนี้

1. รับทราบสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ของจังหวัดร้อยเอ็ด ในวันนี้ (18 ส.ค. 64) จังหวัดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 234 ราย (ติดเชื้อจากภายนอกจังหวัด 186 ราย ติดเชื้อภายในจังหวัด 48 ราย) รักษาหายกลับบ้าน 409 ราย เสียชีวิต 75 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 8,225 ราย รักษาหายสะสม 7,497 ราย

2. ทั้งนี้ในเดือนสิงหาคม 2564 ได้เกิดการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้ 1) คลัสเตอร์ ต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี จากแม่ค้ารถเร่และแม่ครัวในงานศพ มีผู้ติดเชื้อ 35 ราย 2) คลัสเตอร์งานศพ ม.6 ต.โนนชัยศรี อ.โพนทอง มีผู้ติดเชื้อ 34 ราย 3) คลัสเตอร์ บ้านเหล่าเรือ ม.16 ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด มีผู้ติดเชื้อ 15 ราย พฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุรา ติดต่อใกล้ชิด และอยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โอกาสนี้ที่ประชุมได้กำชับให้ทุกพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

3. การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ให้มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต รพ.ร้อยเอ็ด จะจัดให้มีเครื่องให้ออกซิเจนที่มีอาการเหนื่อยหอบ และให้ยาฟาวิพิราเวีย (แพทย์สั่งรักษา) ตั้งแต่ในรถที่ไปรับผู้ติดเชื้อกลับบ้าน จะสามารถลดความรุนแรงของโรคลงได้

4. ให้ตรวจเชิงรุกโดยใช้ชุดตรวจ ATK ในกลุ่มเสี่ยงในทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในชุมชน ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 สวมหน้ากาก อยู่ห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่รวมกลุ่มตัวทำกิจกรรมต่างๆ และไม่รับประทานอาหารร่วมกัน

5. เร่งรัดให้กลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค และสตรีตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป)ให้ได้รับการฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 ภายในเดือนสิงหาคม โดยให้รณรงค์เชิงรุกทุกหมู่บ้าน มีบัญชีรายชื่อติดตามผู้ที่จะได้รับวัคซีน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต ในกลุ่ม 608 และ รพ.ร้อยเอ็ด จะเปิดฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุ 5,000 คน (walk in แสดงบัตรประชาชน) ในระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม 2564 ณ ศูนย์ประชุม โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้นท์ อ.เมืองร้อยเอ็ด

สำหรับกรณีการจัดการกับคลัสเตอร์งานศพ ม.6 ต.โนนชัยศรี อ.โพนทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดไปมอบหมายให้อำเภอโพนทองได้ดำเนินการถอดบทเรียนเพื่อสร้างการเรียนรู้ร่วมกันของอำเภอต่างๆ พร้อมได้กำชับให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังเข้มงวดคนเข้าเมืองเพื่อลดการติดเชื้อภายในจังหวัดให้ได้มากที่สุด สำหรับกรณีการใช้จ่ายเงินงบประมาณซึ่งประกอบไปด้วย 4 แหล่งงบประมาณนั้น ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นเจ้าของงบประมาณได้มีการประชุมหารือกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการใช้จ่ายเงินงบประมาณตามระเบียบ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด  ในส่วนของการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย 608 นั้น โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดที่จะดำเนินการฉีดวัคซีนในช่วงระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม 2564 นี้ ขอให้หน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึงองค์กรภาคเอกชน องค์กรการกุศลได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดหาสิ่งสนับสนุนเพื่อจูงใจให้กลุ่มเป้าหมายมาเข้ารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ต้องดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงด้วย