In News
คืบหน้าล่าสุดน้ำป่าเขาใหญ่ท่วมอ.นาดี เริ่มลดระดับลง-ไร้วีแววคน-บ้านถูกน้ำพัด
ปราจีนบุรี-ความคืบหน้าล่าสุดน้ำป่าเขาใหญ่ –ทับลาน หลากท่วม อ.นาดี เริ่มลดระดับ ขณะ 2 ผัว –เมียที่ถูกน้ำป่าพัดหายพร้อมบ้านไปกับสายน้ำ ยังตามหาไม่พบ!!! ประมวลภาพน้ำท่วมอุโมงและจุดสำคัญของธุรกิจเขาใหญ่และทับลานตลอดจนอำเภอนาดี
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ 1 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากกรณีหลัง เหตุฝนตกหนัก หลังเทศกาลลอยกระทงในช่วงกลางดึก น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ไหลระบายลงจากคลองยาง ซึ่งเป็นคลองต้นน้ำลำพญาธาร น้ำระบายไหลไม่ทัน จนได้เกิดเอ่อท่วมบ้านเรือน ติดตีนเขาริมคลอง คือ หมู่บ้านวังใหม่ หมู่ 8 และหมู่บ้านวังมืด หมู่ 5 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ระดับน้ำท่วมสูง จนชาวบ้าน ต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคา หลายหลัง
หน่วยกู้ภัย ได้ระดมช่วยเหลือกลางดึก พร้อมกับมี 2 ผัวเมีย สูญหายไปพร้อมกับบ้าน ถูกน้ำป่าพัดหาย ไปและ น้ำยังท่วมเส้นทางหลวง ทล.304 ช่วง กม.205-206 สะพานวังมืด หมู่ 5 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี น้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ผ่านได้แต่ลรถใหญ่ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทางอีกจุดหนึ่งคือช่วง กม.204-205 สภาพน้ำไหลเชี่ยว และสูงประมาณ 1 เมตร การจราจรผ่านไม่ได้ ทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมลดระดับลงมาเอ่อท่วมตลาดท่องเที่ยว อ.นาดี เมืองเวโรน่าแอดทับลาน และ ยังท่วม อุโมงค์เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็น (อุโมงค์แห่งแรกที่เชื่อมผืนป่ามรดกโลกของประเทศ) ที่เชื่อมระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก จนต้องปิดการจราจรชั่วคราว ตามที่นำเสนอก่อนหน้านี้ นั้น
นายชัยวัฒน์ เอี่ยมลออ ปลัดอำเภออาวุโส อ นาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ขอรายงานสรุป สถานการณ์น้ำป่า จากอุทยานแห่งชาติ และ อุทยานแห่งชาติทับลาน มรดกโลก ไหลระบายลงคลองยาง ซึ่งเป็นคลองต้นน้ำลำพญาธาร และน้ำระบายไม่ทันได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 63 ตั้งแต่เวลา 02.38 น. เป็นต้นมา นั้น มวลน้ำและดินโคลนจากคลองยางซึ่งเป็นคลองต้นน้ำลำพญาธาร ได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในบ้านวังใหม่ หมู่ที่ 8 และบ้านวังมืด หมู่ที่ 5 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน แบะสาธารณูปโภค ดังนี้
ด้านสาธารณูปโภค มีการปิดเส้นทางถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ตั้งแต่เวลา 04.37 น. จนถึงเวลา 05.50 น. จึงสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติบ้านเรือนราษฎร อุปกรณ์เครื่องใช้ ได้แก่ ตู้เย็น ฯลฯ รวมทั้งรถยนต์ได้รับความเสียหายโดยประมาณ สำหรับรายละเอียด อำเภอนาดีจะได้รายงานเป็นเอกสาร โดยมีรายละเอียด ดังนี้ บ้านวังใหม่ หมู่ที่ 8 ตำบลบุพราหมณ์ บ้านเรือนได้รับผลกระทบ จำนวน 15 หลังคาเรือน มีรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย บ้านวังมืด หมู่ที่ 5 ตำบลบุพราหมณ์ บ้านเรือนได้รับผลกระทบ ประมาณ 25 หลังคาเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ ประมาณ 10 คัน
สำหรับรายละเอียดอำเภอนาดี จะได้สำรวจร่วมกับกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และ องค์การบริหารส่วนตำบล บุพราหมณ์ (อบต. ) เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ และจะรายงานให้ทราบเป็นเอกสาร อีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ นายวรพัน สุโณณสส์ ผวจ.ปราจีนบุรี ได้มีหนังสือด่วน ถึง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปข้อความกล่าวว่า ... “ ด้วยวันที่ 1พฤศจิกายน 2563 เวลา 02 .30 น. ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากทำให้มวลน้ำ และดินโคลนไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน และสาธารณูปโภค ได้รับความเสียหาย ดังนี้ ประชาชนได้รับผลกระทบ หมู่ที่ 1,2,3,5,6,7 ,8 และ10 จำนวนครัวเรือน อยู่ระหว่างการสำรวจ มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมทั้งรถยนต์ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ น้ำยังท่วม บริเวณห้องพักโรงแรมด้านหลัง สถานที่ท่องเที่ยว เดอะเวโรน่า แอท ทับลาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยว อ.นาดี ก่อนขึ้นสู่ภาคอิสาน ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ได้มีการปิดเส้นทางถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ตั้งแต่เวลา 04.30 น. จนถึงเวลา 05.50 น. สามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ และในเวลา 08.00 น.และ ปิดเส้นทางถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 304 บริเวณอุโมงค์เชื่อมระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลาน (อุโมงค์เชื่อผืนป่ามรดกโลกแห่งแรกในประเทศ) เนื่องจากน้ำเข้าท่วมบริเวณอุโมงค์ สูงประมาณ 1.3 เมตร รถไม่สามารถ ผ่านไปได้
การให้ความช่วยเหลือ นายอำเภอนาดี , องค์การบริหารส่วนตำบลบุพราหมณ์ (อบต.) , สำนักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประสานหน่วยงานเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนี้ อำเภอนาดี จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอนาดี และองค์การบริหารส่วนตำบลบุพราหมณ์ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินองค์การบริหารส่วนตำบลบุพราหมณ์ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กำลังทหารจาก ร.2 พัน 3 จำนวน 25 นาย , มณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) กำลังทหาร จากกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 20 นาย , กอ.รมน.จว.ปจ. กำลังทหาร 5 นาย , ศูนย์ ปภ.เขต 3 ปราจีนบุรี เรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ เจ้าหน้าที่ จำนวน 5 คน , อุทยานแห่งชาติทับลาน เจ้าหน้าที่ จำนวน 20 คน , มูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย เรือท้องแบน จำนวน2 ลำ เจ้าหน้าที่ 20 คน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 12 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา รถบรรทุกน้ำ 1 คัน รถลำเลียงพล 1 คัน กำลังพล จำนวน 12 คน น้ำดื่ม 30 โหล และ สถานีตำรวจภูธรนาดี ปิดการจราจร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ขณะที่ นายวัลลพ ประวัติวงศ์ นอภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มีหนังสือถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)โดยระบุว่า อำเภอกบินทร์บุรี ได้รับแจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 จนถึงขณะนี้ ได้เกิดภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลาก จากเทือกเขาในเขตอุทยานฯทับลาน ไหลท่วมข้ามถนนหมายเลข 304 และบริเวณอุโมงค์ทับลาน
จังหวัดปราจีนบุรีได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี คาดว่ามวลน้ำดังกล่าวจะไหลเข้าสู่พื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี ภายในวันนี้ (1 พฤศจิกายน 2563)จึงขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่ติดกับแควห้วยโสมง แควหนุมานและแม่น้ำปราจีนบุรี ได้เตรียมการรับสถานการณ์ โดยยกสิ่งของและนำสัตว์ขึ้นสู่ที่สูง แจ้งเตือนประชาชนและเด็ก ห้ามลงเล่นน้ำในลำน้ำดังกล่าวในช่วงเวลานี้เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบและดำเนินการต่อไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป จากที่น้ำป่าฯ ทะลักเข้าท่วมบ้านวังใหม่ ม.8 ต.บุพราหมณ์ อ. นาดี จ. ปราจีนบุรี กลางดึก ทำให้ประชาชน ขนข้าวของบางส่วนหนีขึ้นที่สูงโกลาหล ทรัพย์สินส่วนใหญ่ถูกกระแสน้ำป่าไหลพัดหายไปกับสายน้ำ บางรายเหลือแต่เสื้อผ้าติดตัวมาเท่านั้น
จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้บ้านเรือนประชาชนถูกกระแสน้ำพัดหายไปทั้งหลังพร้อมกับเจ้าของบ้าน ฝ่ายปกครองและผู้นำหมู่บ้านและหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) ได้เดินเท้าค้นหาบริเวณเนินหาดทราย ซึ่งเป็นบ้านของผู้สูญหายที่ยังมีน้ำจากคลองลำพญาธารไหลผ่าน
ซึ่งยังไม่เห็นบ้านของผู้สูญหายไปกับน้ำเหลือให้เห็นเพียงหาดทรายที่ไหลมาทับถมสูงราว 40-50 ซม.ทราบชื่อบุคคลสูญหาย 2 คนเป็นสามี -ภรรยากัน ชื่อนายสำเนียง อถมพรมราชอายุ 65 ปี สามี และ นางโอ๋ อถมพราราช อายุ 63 ปี ภรรยา เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหากว่า 4 ชั่วโมงยังไม่พบบุคคลทั้งสองแต่อย่างใด คาดว่าถูกกระแสน้ำพัดหายไป ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ทางญาติได้จุดธูปบอกเจ้าที่ ขอให้พบบุคคลทั้งสองโดยเร็วไม่ว่าจะอยู่ในสภาพมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้วก็ตาม กระทั่งบ่ายทีมค้นหาของหน่วยกู้ภัยก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบบุคคลทั้งสองแต่อย่างใด
น.ส.ธิดารัตน์ อถมพรมราช ลูกสาวผู้สูญหายกล่าวว่า “ ตนเองเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา ซึ่งทราบว่าพ่อ -แม่ ถูกน้ำพัดหายไป ยังไม่พบตัวจึงรีบเดินทางมาพร้อมญาติ อยากฝากบอกถึงพ่อกับแม่ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ลูกลูกคิดถึงอยู่เสมอ ขอให้พ่อกับแม่ปลอดภัย เหตุการณ์ดังกล่าวตนกับญาติไม่คาดคิดมาก่อนว่าพ่อจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้
สำหรับมวลน้ำป่า น้ำป่าได้ท่วมบ้านทับลาน , บ้านวังขอนแดง และ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ก่อนขึ้รสู่ภาคอิสาน “ เวโรน่า แอดทับลาน” รวมถึงท่วมอุโมงค์เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็นที่เป็นอุโมงค์เชื่อมระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลาน กับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้านในให้บวดยานวิ่งผ่าน ด้านบนให้เป็นทางเดินไป-มาหากันของสัตว์ป่าในผืนป่าดงพญาเย็น น้ำได้ท่วมสูงเกิน 1เมตร และ ไหลแรง รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านเข้าออกอุโมงค์ได้
ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจรโดยเด็ดขาด ทั้งขาเข้าและขาออก ขณะนี้ปริมาณน้ำได้ค่อยๆลดลง แต่ยังมีระดับที่สูงอยู่ คาดว่าช่วงเย็นของวันนี้ ( 1 พ.ย.)น้ำจะลดเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถผ่านเข้า- ออก อุโมงค์ได้ และมวลน้ำได้ไหลเข้าไปท่วมในพื้นที่แถวตำบลทุ่งโพธิ์อำเภอนาดีจังหวัดปราจีนบุรี หลายพื้นที่ที่ตำลดระดับลงมาเช่นกัน
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี