Authority & Harm

ไร่อ้อยเมืองเลยแจ้งจับคนงานตัดอ้อย โกงค่าแรงเบิกจ่ายล่วงหน้านับ1ล้านบาท 



อุดรธานี-ชาวไร่อ้อยเมืองเลยแจ้งจับคนงานรับจ้างตัดอ้อยโกงค่าแรงล่วงหน้าเกือบ 1 ล้านจำนวน 13 ราย เข้าพบ พ.ต.ท.นภดล ขันตีกุล สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ขบวนการฉ้อโกงทำสัญญาอำพราง รับเงินล่วงหน้าค่าแรงตัดอ้อย แล้วหนีไม่ทำตามสัญญา ความเสียหาย 914,000 บาท



 วันที่ 21 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น.  ที่ สภ.กุมภวาปี ภ.จว.อุดรธานี นายทัศนัย มงคลวัฒน์ อายุ 51 ปี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเลย นำชาวไร่อ้อยจาก จ.เลย และ จ.หนองบัวลำภู รวม 13 ราย เข้าพบ พ.ต.ท.นภดล ขันตีกุล สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ขบวนการฉ้อโกงทำสัญญาอำพราง รับเงินล่วงหน้าค่าแรงตัดอ้อย แล้วหนีไม่ทำตามสัญญา ความเสียหาย 914,000 บาท หลังจากก่อนหน้านี้มาแจ้งความแล้ว 2 ราย แต่ยังไม่มีหลักฐาน “สัญญาอำพราง” 


 นายทัศนัย มงคลวัฒน์ อายุ 51 ปี  นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเลย เปิดเผยว่า เป็นลูกเขยของ 1 ในชาวไร่อ้อยที่ถูกหลอก วันนี้จึงเป็นตัวแทนชาวไร่อ้อย นำชาวไร่อ้อยบางส่วนมาแจ้งความ โดยวันนี้มาแจ้งความที่ สภ.กุมภวาปี และ สภ.อ.ประจักษ์ศิลปาคม ที่เหลือจะทยอยมาแจ้งความอีก โดยได้นำตัว นายสมศักดิ์ สุวรรณพิมพ์ อายุ 60 ปี นายหน้าคนแรก ที่เป็นผู้ติดต่อหาแรงงานตัดอ้อยให้ จาก อ.วังสะพุง มาพบตำรวจด้วย และก่อนหน้านี้ก็ไปที่บ้าน นางสายทอง ภักดีสมัย 48 ปี นายหน้าคนที่ 2 ที่ บ้านดงสามสิบ หมู่ 12 ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี  จ.อุดรธานี   

​​​​​​​
 พ.ต.ท.นภดล ขันตีกุล สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี ได้แจ้งให้ผู้เสียหาย ที่ต้องการแจ้งความ จะต้องเข้าข่ายสัญญาอำพราง คือผู้ถูกกล่าวหาจะต้องทำสัญญาไว้มากกว่า 1 สัญญา โดยผู้เสียหายรวบรวมเอกสาร ยื่นให้กับพนักงานสอบสวน เรียงลำดับประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้เสียหาย , สัญญาว่าจ้างไปตัดอ้อย และสำเนาบัตรประชาชนผู้ถูกกล่าวหา(ถ้ามี) และภาพถ่ายวันรับเงินที่ผู้เสียหายถ่ายไว้  


 นางสุกีลา พูลกลาง อายุ 54 ปี ชาวไร่อ้อยบ้านบุญทัน หมู่ 4 ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เปิดเผยว่า ไม่รู้จักนายหน้ามาก่อน แต่ชาวไร่อ้อยด้วยกันแนะนำมา จึงโทรฯไปถามรู้ว่าเป็นคนงานแถว อ.กุมภวาปี  บอกว่ากำลังจะพาคนงานเข้าไป 30 คน เลยบอกว่าเอาคนงานไว้ให้ด้วย แล้วก็รีบเดินทางมาที่บ้านนายหน้า ที่บ้านดงสามสิบ เห็นคนงานนั่งกันอยู่หลายสิบคน ตนขอวางเงินมัดจำคู่ละ 5,000 บาทก่อน พอขึ้นรถแล้วตนก็จะเอาให้อีก 5,000 บาท คนงานเดินออกไปจนเหลืออยู่ 12 คู่สามีภรรยา 24 คน ๆ ละ 10,000 บาท และเสียให้นายหน้าอีก 10,000 บาทรวม 130,000 บาท 
 เงินที่นำเอามาจ่ายนั้นได้เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ เอาเงินออกมาจ่ายค่าคนงานและนายหน้า ก็คิดว่าเงินที่เอารถไปเข้าไฟแนนท์ได้ 4 แสนบาท เอามาจ่ายค่าคนงานตัดอ้อย 1 แสนบาท และที่เหลือจะเอาเงินมาซ่อมรถ ซึ่งมีหลักฐานที่เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ โดยตอนนี้มีไร่อ้อย 100 ไร่  ของตน 30 ไร่ และเช่าญาติพี่น้อง 70 ไร่  วันนี้ก็อยากที่จะได้เงินคืนไปใช้หนี้ วันนี้ชาวไร่อ้อยได้เดินทางไปดูบ้านแต่ว่าไม่มีใครอยู่ปิดบ้านเอาไว้ ”

  
ด้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณพิมพ์ อายุ 60 ปี อยู่เลขที่ 309 หมู่ 5 บ้านวังกกเดื่อ ต.หนองหญ้าไซ อ.วังสะพุง จ.เลย นายหน้าคนแรก เปิดเผยว่า เดินทางมากับผู้เสียหาย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องกับการโกงในครั้งนี้ โดยปีนี้ไม่มีแรงงานตัดอ้อยจาก สปป.ลาว มีเพื่อนชื่อ “ยุ” ที่เคยไปตัดอ้อย จ.เลย มาหลายปี บอกว่ามีนายหน้ามีแรงงานตัดอ้อย จึงโทรไปสอบถามยืนยันว่ามีจริง ก็ไปบอกชาวไร่อ้อยไม่มีแรงงาน พร้อมกับทำหน้าที่เป็นนายหน้า  
 พาชาวไร่อ้อยมาหานายหน้าที่ อ.กระนวน , อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น และ อ.กุมภวาปี , อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ชาวไร่ก็ตกลงกับคนตัดอ้อยเอง จ่ายค่าล่วงหน้าให้กันคนละ 5,000 บาท แล้วนัดหมายจะมารับไปตัดอ้อย เราก็ได้ค่านายหน้าหัวละ 500 บาท ซึ่งจะแบ่งให้นายหน้าในพื้นที่คนละครึ่ง มีปัญหาเฉพาะที่ บ.ดงสามสิบ มีนางสายทองฯเป็นนายหน้า และ บ.โคกสว่าง อ.ประจักษ์ศิลปาคม มีนายสอนฯเป็นนายหน้า เงินนายหน้าได้มาช้ำไปหมดแล้ว ” 


 ผู้สื่อข่าวเดินทางปที่บ้านดงสามสิบ ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี พบ นายสี จันทรสา อายุ 58 ปี  ผญบ.บ้านดงสามสิบ หมู่ 12 ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี เปิดเผยว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเกิดเหตุนี้ เพราะตอนที่เขามาเอาเงินให้กัน ไม่ได้มาบอกให้ไปเป็นพยาน จนชาวไร่อ้อยมาที่บ้านนางสายทองฯ และมาพบกันตนจึงรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ชาวไร่อ้อยยังบอกด้วยว่า นางสายทองบอกว่าให้ ผญบ.ประกาศชวนชาวบ้านด้วย ทั้งที่ไม่เป็นความจริง   
 บ้านดงสามสิบมี 108 หลังคาเรือน มีเพียงหลังคาเรือนเดียว มีอาชีพแรงงานตัดอ้อย ทุกปีจะเดินทางไปตัดอ้อย จ.กาญจนบุรี และตอนนี้ก็เดินทางไปแล้ว แรงงานตัดอ้อยหลายสิบคน ที่มาทำสัญญารับเงินที่บ้านนางสายทอง ไม่น่าจะเป็นชาวบ้านดงสามสิบ น่าจะเดินทางมาจากที่อื่น ขณะที่นางสายทองย้ายมาจากที่อื่น มาสร้างบ้านอยู่กับน้องสาว ไม่ได้ทำไร่ไถนาเหมือนคนอื่น ไม่มีอาชีพที่ชัดเจน ” 

กฤษดา  จันทร์ดวง ผุ้สื่อข่าว จ.อุดรธานี