Authority & Harm

คนร้ายบุกเดี่ยวจี้มินิมาร์ทได้4พัน-ไม่รอด



ร้อยเอ็ด-คนร้ายบุกเดี่ยวโชว์ปืนจี้ร้านสะดวกซื้อฉกเงินกว่า 4 พันบาทเผ่นหนีแต่ไม่รอด 

วันนี้ (23 มี.ค.64) เวลา 14.00 น. ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พ.ต.อ.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย รองผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.เนติวัฒน์ จันทรา ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.สุดจิต ศรีศิริ รองผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ไพรรัตน์ บุปผา รองผกก.สืบสวน ฯสว.จนท.ชุดสืบสวน แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านเซฟมินิมาร์ท สามแยกวิทยาลัยนาฏศิลป์ ถ.กองพลสิบ ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด แล้วหลบหนีไป เมื่อวันที่ 14 มีค.64 และต่อมาวันที่ 22 มี.ค. 64 ชุดสืบสวน ได้ติดตามสืบสวนจนได้ขอออกหมายจับกุม ผู้ก่อเหตุ ชื่อนายกรกฎ มั่งศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/4 หมู่ 16  ด.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด 

ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าจะนำเงินไปจ่ายหนี้นอกระบบซึ่งยืมมากว่า 2 เดือนแล้วแถมดอกก็เพิ่มมากขึ้นจึงตัดสินปัญหาโดยการจี้ชิงทรัพย์ดังกล่าว แล้วนำชิ้ที่เกิดประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกที่ห้างสรรพสินค้าชั้น 3 ไปติดต่อซื้อปืน จุดที่ 2 ที่ร้านจำนำโทรศัพท์ และจุดที่ 3 ที่ร้านเซฟมินิมาร์ท สาขา 3 วิทยาลัยนาฎสิลป์ร้อยเอ็ค ถนนกองพลสิบ ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 10.25 น. นำตัวผู้ต้องหาส่งสภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีข้อหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ

เหตุเกิดที่ ร้านเซฟมินิมาร์ท สาขา 3 วิทยาลัยนาฎสิลป์ร้อยเอ็ค ถนนกองพลสิบ ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 10.25 น. ยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด - รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกุปปี้ไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
รายละเอียดหรือพฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาเป็นหนี้เงินกู้จาก " กาฟิวเงินทุน ㆍ จำนวน 2,000 บาท แต่ไม่มีเงินใช้หนี้เงินกู้ จึงเกิดความคิดที่จะหาเงินมาใช้หนี้เงินกู้ จึงไปหาซื้อปืนเด็กเล่นที่คล้ายกับอาวุธปืนของจริง จนกระทั่งพบว่ามีจำหน่ายอยู่ ห้างสรรพสินค้าร้อยเอ็ดพลาซ่า ต่อมาวันเกิดเหตุก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนค้า รุ่นสกุ๊ปปิ้ไอ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นยานพาหนะ ไปสอบถามราคาปืนเด็กเล่น ยี่ห้อกล็อค 17 รหัส ป.G 17 แบบออโตเมตริก จากพนักงานขายประจำร้านภายในห้างสรรพสินค้าร้อยเอ็ดพลาซ่า ปรากฎว่าราคา 900 บาท แต่ผู้ต้องหาไม่มีเงิน จึงนำโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ หัวเหว่ย สีเขียว ไปจำนำกับร้าน FAST MONEY สาขา 2 วิทยาลัยนาฎศิลปร้อยเอ็ด ได้เงิน 1,000 บาท แล้วนำไปซื้อปืน ต่อมาตามวันเวลาที่เกิดเหตุผู้ต้องหาจึงขับรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ข้างร้าน แล้วเดินเข้าไปภายในร้านโดยสวมหมวกนิรภัยแบบเต็มตัวปกปิดใบหน้า ทำทีเดินเลือกสินค้า จนสบโอกาสเดินเข้าไประชิดตัวนางสาวศศิธร กฤษณา

พนักงานประจำร้านที่เคาว์เตอร์ ใช้ปืนเด็กเล่นแนบข้างลำตัวหันปากกระบอกปืนไปยังพนักงานขาย เพื่อขู่เข็ญว่า ในทันใคนั้นจะใช้อวุธปืนทำอันตรายนางสาวศศิธร ฯ พร้อมกับพูดขึ้นว่า " เงินอยู่ไหน เอาเงินมา " นางสาวศศิธร 1 กลัวว่าจะเกิดอันตราย จึงส่งเงินทอนในกระปุกพลาสติก จำนวน 4,000 บาท ให้กับผู้ต้องหา 

หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปเข้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ จึงทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ไปขอสอบถามรากาปืนที่ใช้ในการก่อเหตุจาก พนักงานประจำร้านภายในห้างสรรพสินค้าร้อยเอ็ดพลาซ่า หลังจากทราบราคาแล้ว ได้นำโทรศัพท์มือถือไปจำนำที่ร้าน FAST MONEY ได้เงิน1,000 บาท โดยขณะที่เข้าไปในร้านจำหน่ายปีนเด็กเล่น และร้าน FAST MONEY นั้น ผู้ต้องหาไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย จึงทำให้พนักงานขายปืน และพนักงานร้าน FAST MONEY จึงจำใบหน้าของผู้ต้องหาได้ และผู้ต้องหาต้องนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมอบให้ทางร้าน และทำสัญญาฝากและลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นลูกค้าประจำ จึงทำให้ทราบชื่อตัวชื่อสกุล ที่อยู่ เลขประจำตัว

ประชาชนของผู้ต้องหา เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นคนร้ายอย่างแน่นอน พนักงานสอบสวนจึงยื่นคำร้องต่อศาลให้ออกหมายจับผู้ต้องหา ศาลอนุมัติตามหมายจับที่ 100/2564 ลง 21 มีค.2564 ต่อมาวันที่ 22 มีค.2564 เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 252/1  ถ.ราชการรถไฟ ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินดดีตามกฎหมาย  ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และสมัครใจนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ
พ.ต.อ.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย รองผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ฝากถึงผู้ที่คิดอยากจะก่อเหตุไม่ว่าจะเป็นการชิงทรัพย์ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ร้านพี่น้องประชาชนทั่วไป คนคิดจะก่อเหตุขอให้เลิกคิด งังไงท่านก็หนีไม่พ้น ไม่พ้นเงื้อมมือตำรวจ ไม่ว่าท่านจะใช้แม็ท ถุงมือ หรือเปลี่ยนทะเบียนรถ ไม่ติดแผ่นป้าย ตำรวจไทยยุคใหม่มีการสืบสวนทางเทคนิคชั้นสูง ก็ฝากไปยังคนคิดจะก่อเหตุให้เลิก ให้ประกอบสัมมาชีพสุจริตดูแลตัวเองและอยู่ในสังคมโดยให้เลิกแนวคิดนี้เสีย

ด้านนายกรกฎ มั่งศรี รับสารภาพว่า การชิงทรัพย์ครั้งนี้เพื่อนำไปใช้หนี้เงินกู้นอกระบบที่ยืมมา 2 พันบาท แต่ดอกขึ้นไป 6 พันบาท โดยยืมเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา