Digitel Tech & Innovation

วว.วิจัยการเพิ่มมูลค่าผลผลิตมะขามป้อม ช่วยลดการสะสมแคดเมียมในร่างกาย



กรุงเทพฯ-“มะขามป้อม” หรือ มะขามป้อมอินเดีย เป็นต้นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ Phyllanthaceaeเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และมีคุณค่าทางสมุนไพร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica Linn.จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับมะยม คือ ตระกูล Phyllanthus พบมากในแถบเอเชียเขตร้อน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์  เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8-12 เมตร ลำต้นคดงอ ไม่ตรง  เปลือกนอกของลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา ส่วนเปลือกในเป็นสีชมพูสด  ใบเป็นช่อ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับ ปลายใบแหลม โคนใบโค้งมน ขอบใบเรียบ มีสีเขียวอ่อน เรียงชิดติดกันบนก้านใบ มีดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อนเล็กๆ รวมอยู่บนกิ่งเดียวกัน ออกดอกประมาณเดือนกันยายนผลกลม เนื้อหนา สีเขียว ผลอ่อนสีเขียวอ่อนและผลแก่สีเขียวอมเหลือง ค่อนข้างใส  ผลรับประทานได้ มีรสฝาด เปรี้ยว ขม และอมหวาน    เก็บผลผลิต    ช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์

โดยทั่วไปนิยมรับประทานผลสดมะขามป้อม และนำมาแปรรูปเป็นอาหาร อาหารเพื่อสุขภาพ  เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางและยาสมุนไพร เนื่องจากมีสารแทนนิน(Tannin) และวิตามินซีสูง โดยปริมาณแทนนินและวิตามินซีจะแตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ โดยจะพบแทนนินทั้งในลำต้นและผลของมะขามป้อม

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ดำเนินโครงการการศึกษาการเขตกรรม ส่งเสริมการปลูกและการผลิตผลิตภัณฑ์จากมะขามป้อมในการปลูกเป็นการค้า ภายใต้แผนงานการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์มะขามป้อมเชิงพาณิชย์ดำเนินการศึกษาและรวบรวมมะขามป้อมจากจังหวัดนครราชสีมา กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ โดยได้ดำเนินการปลูกและรวบรวมสายพันธุ์ไว้ ณ สถานีวิจัยลำตะคอง วว. อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ประสบผลสำเร็จในการคัดเลือกและรวบรวมสายพันธุ์มะขามป้อมได้มากกว่า 26 สายพันธุ์ และพัฒนาให้มีผลขนาดใหญ่  ปริมาณเนื้อมาก มีความเหมาะสมในการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และส่งเสริมให้มีการปลูกมะขามป้อมพันธุ์ดี เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง

นอกจากนั้น วว. ได้ศึกษาพบว่า มะขามป้อมทั้ง 26 สายพันธุ์ มีปริมาณสารแทนนินในผลปริมาณสูงระหว่าง 145.4±9.6 - 445.9±8.4mg/gDW

ทั้งนี้ “สารแทนนิน” เป็นสารที่พบได้ในพืชที่มีรสฝาดโดยทั่วไปร่างกายจะได้รับจากการกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแทนนินเป็นส่วนประกอบมีคุณสมบัติเด่น คือ ช่วยลดปริมาณแคดเมียมในร่างกายได้โดยการรวมตัวกับแคดเมียม(Cadmium: เป็นโลหะหนักหากร่างกายได้รับและมีการสะสมเป็นระยะเวลานาน สามารถทำอันตรายสมองได้ ทำให้เกิดโรคมะเร็งในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มะเร็งปอด ต่อมลูกหมากและไต เป็นต้น) ให้อยู่ในรูปของคีเลท (Celate: สารที่มีโครงสร้างเป็นวงแหวน) ซึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้แทนนินยังมีคุณสมบัติในการเพิ่มฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มภูมิคุ้มกัน มีส่วนช่วยในการปรับปรุงระบบการย่อยไนโตรเจน ช่วยให้ลดปริมาณไนโตรเจนที่ขับออกจากร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ไนโตรเจนของร่างกาย

ดังนั้น “แทนนินจากมะขามป้อม” จึงเป็นสารสำคัญที่น่าสนใจ ในการนำไปใช้ประโยชน์และแก้ไขปัญหาเพื่อลดปริมาณแคดเมียมที่ได้รับและสะสมในร่างกาย รวมทั้งการนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อลดปริมาณแคดเมียมที่ปนเปื้อนได้

ตัวอย่างการใช้ประโยชน์แทนนินในอุตสาหกรรมอาหาร อาทิ การลดปริมาณการปนเปื้อนของแคดเมียมในกระบวนการผลิตน้ำปลาในญี่ปุ่น ซึ่งสามารถลดปริมาณแคดเมียมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์น้ำปลา  เป็นต้น

นอกจากการรวบรวมสายพันธุ์ของมะขามป้อมแล้ว วว. ยังมีการเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและสกัดสารสำคัญโดยนำมาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ดังนี้

ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ วว. ดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจากมะขามป้อม  ประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนา 5 ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะขามป้อม   อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี สารแทนนิน พอลิฟีนอล ฟลาโวนอยด์ และสารออกฤทธิ์ชีวภาพอื่นๆ ที่มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย  ช่วยแก้หวัด ลดไข้ แก้ไอ และขับเสมหะ ได้แก่1) มะขามป้อมแช่อิ่ม2) มะขามป้อมลอยแก้ว 3) มะขามป้อมแผ่น 4) กัมมี่มะขามป้อม  และ 5) น้ำไซเดอร์มะขามป้อม

ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง  ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร วว. ดำเนินงานภายใต้โครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากมะขามป้อม  ประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนา 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอาง Emsoftra® คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว สำหรับผม และสำหรับช่องปาก

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์โดยรวม คือ มีส่วนผสมของสารสกัดผลมะขามป้อมและสารสกัดผลมะแขว่นในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มฤทธิ์ชีวภาพของสมุนไพรให้แก่ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ และฤทธิ์ต้านอักเสบ

โดยผลวิจัยของ วว. พบว่าเมื่อนำสารสกัดเอทานอล-น้ำ จากผลมะขามป้อมมาผสมกับสารสกัดผลมะแขว่นในสัดส่วนที่ได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว จะช่วยเพิ่มฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ของสารสกัด และทำให้ได้สารสกัดสมุนไพรผสมที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน และมีฤทธิ์ต้านอักเสบที่ดีส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ วว. พัฒนาขึ้นนั้นมีคุณสมบัติโดดเด่นและแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ท้องตลาด ตอบโจทย์ผู้บริโภคเกี่ยวกับการบำรุงผิว บำรุงผม ต้านจุลินทรีย์และต้านอักเสบ นอกจากนี้ด้วยฤทธิ์ต้านอักเสบที่ดีของสารสกัดสมุนไพรยังช่วยให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวที่แพ้ง่ายด้วย

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า “มะขามป้อม” มีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย  ทั้งในสรรพคุณทางโภชนาการและการประยุกต์ใช้สารสกัดเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดย วว. มุ่งวิจัยและพัฒนานำสารสกัดของมะขามป้อมไปใช้ประโยชน์ในสาขาอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนนโยบายการนำทรัพยากรชีวภาพในประเทศมาใช้ให้เกิดคุณค่าสูงสุดทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและพาณิชย์ อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม

วว. พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากมะขามป้อมสู่เชิงพาณิชย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทร. 025779000 E-mail : marketing_tistr@tistr.or.th  หรือที่ “วว. JUMP”