In Bangkok

กทม.ปรับภูมิทัศน์สวนพระปกเกล้าเปลี่ยน ทางเท้าหน้าพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย



กรุงเทพฯ-รองผุ้ว่าฯกทม.ผสานพลังปรับภูมิทัศน์สวนพระปกเกล้า เปลี่ยนทางเท้าหน้าพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย ยกระดับพื้นที่สาธารณะ สานเมืองเชื่อมฝั่งธนบุรี ฟื้นชีวิตย่านพระนคร 

(9 ส.ค. 68) เวลา 09.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนพระปกเกล้า เขตพระนคร และบริเวณพื้นที่โดยรอบ พร้อมทั้งเดินสำรวจความเป็นระเบียบเรียบร้อย เริ่มจากทางเท้าถนนตรีเพชรข้างวัดราชบุรณราชวรวิหาร (วัดเลียบ) ต่อเนื่องถนนจักรเพชร ผ่านทางเข้าลานจอดรถวัดเลียบ ทางเท้าหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย จนถึงหน้าทางเข้าการไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ ถนนจักรเพชร โดยมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักงานเขตพระนคร การไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล 

กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนพระปกเกล้าและบริเวณพื้นที่โดยรอบ โดยมีหลายหน่วยงานที่ร่วมกันดำเนินงานในส่วนที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบ ประกอบด้วย สำนักสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีโครงการปรับปรุงสวนพระปกเกล้า โดยออกแบบพื้นที่ภายในสวน ปรับปรุงประตูรั้วและแนวรั้วโดยรอบสวน ลานทางเดินภายในสวนและทางเดินเข้าออก ลานจอดรถและอาคารสุขาสาธารณะ สำนักงานเขตพระนคร จัดหาสถานที่สำหรับจอดรถเก็บขนมูลฝอยและรถบรรทุกน้ำ ทดแทนที่จอดรถเดิมบริเวณสวนพระปกเกล้าที่จะดำเนินการปรับปรุง รวมถึงดูแลรักษาความสะอาดทางเท้าและพื้นที่โดยรอบ สำนักการโยธา ดำเนินโครงการปรับปรุงทางเท้าถนนตรีเพชร ผ่านด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทยเขตวัดเลียบ ต่อเนื่องไปจนถึงถนนจักรเพชร สำนักการจราจรและขนส่ง ดำเนินการทาสีทางม้าลาย ทาสีขอบทางเท้า ติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติม ในขณะเดียวกันการไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย และส่วนต่อขยายบริเวณอาคาร 1 การไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ จึงมีแนวคิดในการบูรณาการทำงานร่วมกันในการปรับปรุงภูมิทัศน์และทางเท้าบริเวณดังกล่าว โดยการไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงทางเท้า ตั้งแต่ทางเข้าลานจอดรถวัดเลียบ ผ่านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย จนถึงหน้าประตูทางเข้าการไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ ซึ่งการปรับปรุงทางเท้าดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 68 

สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ เป็นการติดตามความก้าวหน้าในการปรับปรุงภูมิทัศน์ต่อเนื่องจากการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยรองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ได้มอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักงานเขตพระนคร ประสานกับการไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ ในการปรับปรุงทางเท้าด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย ซึ่งขณะนี้ผู้รับจ้างดำเนินการปรับปรุงทางเท้าแล้วเสร็จตามกำหนดในวันที่ 31 ก.ค. 68  รวมถึงรื้อถอนและเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางบนทางเท้าถนนจักรเพชร ตัดแต่งต้นไม้และกิ่งไม้บริเวณเกาะกลางถนนด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย และช่วงทางลงเชิงสะพานพระปกเกล้าฝั่งพระนคร การทาสีทางม้าลาย การตีเส้นจราจรชะลอความเร็ว การทาสีขอบคันหินทางเท้า ประสานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ปรับปรุงแนวรั้วชั่วคราวเชิงสะพานพระปกเกล้าฝั่งพระนคร ตลอดจนทาสีทับข้อความที่มีการพ่นสีหรือขีดเขียนข้อความตามแนวรั้วเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว 

นอกจากนี้ การไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ ยังมีแนวคิดในการสร้างสรรค์งานศิลปะบนฝาเหล็กบ่อพักสายไฟฟ้า โดยออกแบบลวดลายบอกเล่าอัตลักษณ์ เชื่อมโยงเรื่องราวในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชุมชนย่านพระนคร โดยจะนำฝาเหล็กเหล่านั้นไปติดตั้งแทนฝาเหล็กเดิมบริเวณด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทยต่อเนื่องไปตามถนนจักรเพชร จนถึงหน้าประตูทางเข้าการไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ รวมถึงยังมีแนวคิดในการออกแบบลวดลายบนฝาบ่อพักของสำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ NT เพิ่มเติม เพื่อเปลี่ยนฝาบ่อพักในบริเวณทางเท้าโดยรอบ ให้เป็นฝาบ่อพักที่มีลวดลายสื่อความหมายถึงอัตลักษณ์ย่านพระนคร มีความโดดเด่น สวยงาม และเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งการปรับปรุงภูมิทัศน์และทางเท้าในบริเวณดังกล่าว นับว่าเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันให้มีความสอดคล้องต่อเนื่อง ผสานเนื้องานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อมโยงการเดินทางสู่ย่านสำคัญในพื้นที่ฝั่งพระนครและพื้นที่ฝั่งธนบุรี 

“การบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงานอย่างสอดคล้องและต่อเนื่อง ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยเน้นการผสานเนื้องานเพื่อให้แต่ละหน่วยงานดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ลดความซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองเป้าหมายร่วมกันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะด้านการเดินทาง ที่ต้องเชื่อมต่อพื้นที่สำคัญของเมืองได้อย่างไร้รอยต่อ ครอบคลุมทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี เชื่อมโยงย่านสำคัญ รวมถึงย่านเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนแนวคิดสานเมือง ซึ่งหมายถึงการหลอมรวมย่านต่าง ๆ ให้เป็นเมืองที่มีชีวิต เชื่อมโยงทั้งในเชิงกายภาพและเชิงนโยบายอย่างกลมกลืน” รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าวในตอนท้าย