Biz news
TFDขยับเร่งเสริมแกร่งด้านทรัพยากรน้ำ เรียกเชื่อมั่นนักลงทุนเข้าพื้นที่
ฉะเชิงเทรา-นิคมอุตสาหกรรม TFD เริ่มขยับเร่งเสริมแกร่งด้านทรัพยากรน้ำ เรียกเชื่อมั่นนักลงทุนเข้าพื้นที่ หลังสถานการณ์โควิด 19 แปดริ้วคลี่คลาย เผยเตรียมที่ดินไว้กว่า 3 พันไร่จัดสรรเนื้อที่พร้อมรับการลงทุนไว้แล้วกว่า 800 ไร่ ล่อใจกลุ่มทุนในอุตสาหกรรมใหม่ 12 ประเภท ตามนโยบายส่งเสริมของรัฐบาลเป็นเป้าหมายหลัก ในพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
วันที่ 17 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากฝ่ายประสานงานด้านการประชาสัมพันธ์ บริษัทเจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา บนเนื้อที่กว่า 3 พันไร่ว่า ทางบริษัทได้เตรียมจัดพิธีลงนามความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรม (ภาคเอกชน) รายใหญ่ บริษัทอินดัสเตรียลวอเตอร์รีซอร์ช์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) ซึ่งมีความแข็งแกร่งทางด้านแหล่งต้นทุนน้ำดิบมากถึงกว่า 37.3 ล้าน ลบม. ต่อปี
ในการเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านทรัพยากรน้ำ สำหรับภาคอุตสาหกรรม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน หลังจากในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ได้มีนักลงทุนต่างสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ เป็นจำนวนมาก แต่ยังติดขัดปัญหาด้านความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเรื่องของแหล่งน้ำเพื่ออุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ทางบริษัทจึงได้เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือกับผู้ผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรมรายใหญ่ในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนเกี่ยวกับแหล่งน้ำในวันที่ 23 ธ.ค.64 นี้
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี (TFD) นั้น ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทำเลทอง เหมาะแก่การลงทุน อยู่ในจุดยุทธศาสตร์เมืองอุตสาหกรรมใหม่ มีพื้นที่ติดกับถนนสายหลัก 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง และถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กรุงเทพฯ-พัทยา กม.39-46 ถือเป็นประตูทางเข้าสู่เขตโครงการพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 30 กม. และห่างจากท่าเรือกรุงเทพฯ เพียง 59 กม.
ห่างจากท่าเรือแหลมฉบัง 69 กม. ห่างจากสนามบินอู่ตะเภา 114 กม. ห่างจากท่าเรือมาบตาพุฒ 128 กม. และโครงการท่าเรือบกดอนสีนนท์ (ยังอยู่ในระหว่างศึกษาโครงการ) เพียง 16 กม. มีพื้นที่รองรับนักลงทุนมากถึงกว่า 3 พันไร่ โดยมีการจัดสรรพื้นที่ไว้เพื่อเตรียมพร้อมรองรับนักลงทุนแล้วถึงกว่า 800 ไร่ แบ่งเป็นเขตฟรีโซน และเจเนอรัลโซน เพื่อของรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 ประเภท ตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
โดยมีการเตรียมการด้านสาธารณูประโภค เช่น ระบบพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าบางปะกง ระบบก๊าซธรรมชาติจากบริษัท ปตท. และยังได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการวันสต็อปเซอร์วิส ไว้คอยให้บริการแก่นักลงทุน ในการประสานงานยื่นขออนุญาตจัดตั้งโรงงานพร้อมแจ้งสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ให้แก่ผู้เข้ามาลงทุนทราบอีกด้วย
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา