In News
คืบ!บุกพิสูจน์ศาลต้นโพธิเฮี้ยนคืนที่2 หลวงพ่อยัน'จัดฉาก'ชี้เหตุย้ายต้นโพธิ์
ปราจีนบุรี-คืบหน้า บุกเดี๋ยว!! พิสูจน์ศาลต้นโพธิเฮี้ยน คืนที่2 ขณะหลวงพ่อยืนยันเสียงช้างร้องจัดฉาก แจงต้นโพธิ์ -ศาล ตั้งริมถนนมานานแล้ว แต่มีคนนำศาลพระภูมิ,เทวรูป,พระพุทธรูปผุพังไปทิ้ง เมื่อมีสายไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่าน ต้องมีการตัดต้นโพธิ์ แต่มีคนขอไว้ จึงย้ายศาลและต้นโพธิ์ไปไว้จุดดังกล่าวแทน!!!
เมื่อเวลา10.00 น.วันนี้ 27 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานข่าวคืบหน้า หลังจากที่เมื่อปีที่ผ่านมา ริมถนนในหมู่บ้านโคกสว่าง ชาวบ้านมีการนำศาลพระภูมิ ,ซากปรักหักพังของเทวรูป,พระพุทธรูป, ไปทิ้งริมถนน เป็นจำนวนมากใกล้ต้นโพธิ์ – ศาลริมถนน ภายหลังมีเสียงร่ำลือว่า มีเสียงเด็กร้อง และกล่าวขานเป็นอภิ นิหารจากกุมารทองที่ถูกนำมาทิ้ง เป็นข่าวผ่าน “สื่อ” โด่งดังไปทั่วพร้อมมีการทรงเจ้า หาเลขเด็ด และ หนุ่ม-สาวชาวบ้านที่ทำงานย่านนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องผ่านถนนสายที่ตั้งต้นโพธิ์ – ศาลเจ้าเกิดความสะพรึงกลัวในยามค่ำคืน จนต้องมีการทำพิธีสงฆ์ ย้ายต้นโพธิ์ – ตั้งศาลใหม่ ห่างจากริมถนนกว่า 20เมตรเศษ ให้เกิดความเรียบร้อยในชุมชน แต่ต่อมาได้มีคนถูหวย แล้วนำช้างพลาย ปูนปั้นขนาดเท่าช้างตัวจริงสูงกว่า 1.50 เมตรมาตั้งไว้ราว 1 เดือนเศษ พร้อมกับมีข่าวลือ มีเสียงช้างร้อง ในบริเวณต้นโพธิ์เก่าแก่ – ศาลดังกล่าวผ่าน “สื่อ” อีกครั้งหนึ่ง ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี จึงได้บุกพิสูจน์ “ข้อเท็จจริง” เมื่อวันที่ 26 พ.ย.63 โดยไปอยู่ที่ศาลต้นโพธิ์เฮี้ยน ซึ่งมีคนได้ยินเสียงช้างร้องตามลำพังคนเดียวตลอดทั้งคืนจรดรุ่งเช้า ไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือ มีเสียงช้างร้องแต่อย่างใด ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียด ก่อนหน้านี้นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เพื่อพิสูจน์ความจริง! อีกครั้ง ในคืนนี้ จึงได้บุกสำรวจที่ศาล – ต้นโพธิ์เป็นคืนที่ 2 ที่ในหมู่บ้านโคกสว่าง ม.7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยผู้สื่อข่าวซุ่มเฝ้าบริเวณต้นโพธิ์ ข้าง ๆ ศาล ตั้งแต่เวลา 22.00น.เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากคืนแรกได้เฝ้าทั้งคืน ไม่พบเสียงร้องของช้าง ตามที่มีคนได้ยินว่ามีเสียงช้างร้อง
จากการสอบถามชาวบ้านโคกสว่างหลายคนบอกว่า ได้ยินคนพูดว่าได้ยินเสียงช้างร้อง ที่ต้นโพธิ์แต่ไม่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ว่าเป็นใคร ? ชาวบ้านบางคนกล่าวว่า คนที่พูดว่าได้ยินเสียงช้างร้อง ที่ต้นโพธิ์นั้นไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะพอรู้ตัวว่าบุคคลดังกล่าวนั้น มีอาการหลอนไปเอง ซึ่งไม่ขอพูดเรื่องส่วนตัวของเขา !!!โดยในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้มีการแอบซุ่มฟังเสียงช้างร้องอีกคืนหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศความมืดทั้งคืน ไม่พบมีเสียงใดๆ นอกจากเสียงจิ้งหรีด ,เรไร กระทั่ง เวลา 04.30 น. ค่อนรุ่ง (27 พ.ย.) ก็ยังไม่มีเสียงช้างร้องแต่อย่างใดกระทั่งเวลา 05.00 น. ยังไม่ได้เสียงช้างร้อง
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ไปนมัสการสอบถามพระครูอรุณ จันทวงศ์ เจ้าอาวาสวัดโคกสว่าง เจ้าอาวาสกล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองเป็นคนในพื้นที่นี้คนหนึ่งเช่นกัน เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง ที่มีข่าวว่ามีโยมได้ยินเสียงช้างร้องที่ศาล - ต้นโพธิ์ดังกล่าวย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ที่มีการได้ยินเสียงเด็กร้อง ที่บริเวณต้นโพธิ์ ซึ่งห่างจากปากทางเข้าหมู่บ้านที่มีบ้านอยู่ประมาณ 10 กว่าหลังคาเรือน ดังนั้นคนที่ได้ยินเป็นผู้หญิงในหมู่บ้านฉันนี้ซึ่งมีอาการหลอนไปเอง และ ตกเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วครั้งหนึ่งโดยก่อนหน้านี้ ตรงบริเวณดังกล่าว มีคนนำศาลพระภูมิเก่า ตลอดจนเทวรูป พระพุทธรูปที่ปรักหักพังต่างๆ มาทิ้งวางไว้ที่ข้างต้นโพธิ์เป็นจำนวนมาก ต่อมาทางการไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่านตรงจุดที่ต้นโพธขึ้นอยู่ จึงทำการตัดแนวป่าบริเวณนั้นออก รวมถึงต้นโพธิ์ขนาดใหญ่จะต้องขุดออก เพื่อความปลอดภัยเนื่องจากสายไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่าน เกรงว่าจะมีการเสียดสีกับสายไฟฟ้าแรงสูง
ขณะเดียวกันมีคนขอไม่ให้ขุดต้นโพธิ์ทิ้ง จึงนำเอาไปขุดปลูกไว้ ซึ่งอยู่ห่างจุดเดิมไปประมาณ 20 เมตร และมีการขนย้ายศาลพระภูมิและเทวรูปต่างๆออกไปไว้ที่ใต้ต้นโพธิ์ด้วย จึงเป็นที่มาของการขอเลขขอหวย ตามความเชื่อของบรรดาญาติโยม ที่ชอบเสี่ยงดวง ประกอบกับมีการเข้าทรงเพื่อขอโชคลาภ จึงเป็นที่มาของความเชื่อต่างๆ และมีการนำรูปปั้นช้าง 2 ตัวมาตั้งไว้ ที่บริเวณดังกล่าวเป็นความเชื่อของส่วนบุคคลที่ไม่กี่คน ซึ่งมีการโยงถึงเรื่องเลขเด็ดจากเกจิอาจารย์ดัง
จึงมีการโจทย์ขานกันในกลุ่มเล็กๆ ที่จุดบริเวณนี้ อาทิ ใบ้ - ให้เลขเด็ด นอกจากนี้ยังมีการจัดฉาก เพื่ออยากดังเรียกคนดู เพื่อที่จะมาสถานที่ตรงนี้ โดยอาศัยความเชื่อ – สิ่งเร้นลับ! เรื่องที่มีคนได้ยินเสียงช้างร้องนั้น น่าจะเกิดจากคนๆเดียว ที่เป็นต้นเรื่อง เรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นจริงอย่างที่มีกระแสข่าว ว่าได้ยินเสียงช้างร้อง แปร่น ๆๆ ที่บริเวณศาลต้นโพธิ์จุดสำคัญของเรื่องนี้ คือผู้สื่อข่าวได้มาสังเกตการณ์โดยได้แอบซุ่มดูอยู่ถึง 2 คืนติดต่อกันซ้อนเพียงลำพังหนึ่งเดียว แต่ก็ไม่ปรากฏได้ยินเสียงช้างร้อง ตามที่มีการกล่าวอ้างเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา จึงเชื่อได้ว่า เป็นการจัดฉาก จากคนไม่กี่คน จึงอยากจะฝากขอให้ทุกคนได้หยุดและฉุกคิด ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า มันเป็นไปได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ?
การที่ผู้สื่อข่าวแอบมาซุ่มฟังเสียงช้างร้องทั้ง 2 คืน!! แต่ไม่ปรากฏว่าได้ยินเสียงช้างร้องนั้น พิสูจน์ได้แล้วตามหลักเหตุ –ผล ว่าไม่มีเรื่องน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นแต่อย่างใด หากมีสิ่งลี้ลับเกิดขึ้นจริง หรือมีเสียงช้างร้องอย่างที่กล่าวอ้างนั้น คิดว่าผู้สื่อข่าวที่มาคนเดียว เฝ้าดูทั้ง 2 คืน ไม่ได้ยินเสียงช้างร้องแต่อย่างใด เป็นการจัดฉากจากคนสร้างกระแสให้คนตื่น”พระครูอรุณ กล่าวในที่สุด
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี