ลูกศิษย์อึ้ง!มีสิ่งบังตาตู้เงินหลวงพ่อพูล โจรงัดวิหารขนทุกอย่างแต่ไม่เห็นตู้เงิน

วันที่ 8 ธันวาคม 2563 - 16:39 น.

---

นครปฐม -ศิษย์วัดไผ่ล้อม อึ้งแต่เชื่อในบารมีหลวงพ่อพูล เหตุคนร้ายย่องงัดเข้าวิหารฉกพระรุ่นหนึ่งหลวงพ่อพูล หลวงพี่น้ำฝน แถมงัดตู้บริจาคนับสิบฉกเงินและสมบัติวัดนับล้าน ตำรวจเก็บหลังฐานแต่เจ้าหน้าที่งง ตู้บริจาคหน้าสังขารหลวงพ่อพูล กุมารสมบัติ ไม่มีรอยงัดพบเงินอยู่ครบ คาดมีพลังบังตาหรือคนร้ายไม่กล้าในบารมีหลวงพ่อ โดยพบตีนแมวเย้ยบุกปีนเข้าออกหน้าอาคารตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 เร่งตามกล้องแกะรอยคาดได้ตัวแน่ 

วันนี้ 8 ธันวาคม 63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม หลักเมื่อวานนี้มีคนร้ายชายบุกย่องเบาและงัดหน้าต่างบุกเข้าไปงัดตู้กระจกเก็บวัตถุมงคลสำหรับเปิดให้ประชาชนมาเช่าบูชา โดยมีเหรียญหลวงพ่อพูล อดีตเกจิดังเทพแห่งลุ่มน้ำท่าจีน ทั้งรุ่น1 และรุ่น 2 เหรียญหลวงพี่น้ำฝน รุ่น 1 และเหรียญหายากของวัดไผ่ล้อมรุ่น 1 หลายรายการ รวมถึงได้งัดเงินในตู้บริจาคเงินนับ10 ตู้ โดยทรัพย์ที่ได้ไปรวมมูลค่านับล้านบาท เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ของคืนวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยกระแสดังกล่าวได้สร้างความปวดใจให้กับศิษยานุศิษย์ที่เคารพ ถึงการกระทำของคนร้ายเนื่องจากเงินในตู้บริจาคส่วนใหญ่หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมได้ตั้งไว้เพื่อให้ประชาชนบริจาคในกิจการสวดเผาศพฟรี และก่อสร้างศาลาหลวงพ่อพูลที่กำลังมีการก่อสร้างติดกับวิหารที่ถูกโจรกรรม

โดยจากการตรวจสอบพบว่าในวันนี้ หลวงพี่น้ำฝน ไม่อยู่เนื่องจากติดกิจนิมนต์ไปช่วยวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ในการบูรณะซ่อมแซม และพัฒนาวัด มีเพียงเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ คอยดูแลความเรียบร้อย ซึ่งที่หน้าตู้กระจกที่จัดให้มีการบูชาวัตถุมงคล มีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลตั้งแต่ช่วงเช้า โดยพบว่ามีการสำรวจพื้นที่ต่างๆ พบว่าคนร้ายนั้นเป็นมืออาชีพเนื่องจากมีการทำการบ้านในการเข้าออกและมีความชำนาญในเชิงช่างทั้งการทุบกระจบให้เจาะเป็นวงพอที่จะสอดมือมาล้วงลูกบิดเปิดหน้าต่างได้ การตัดลูกกุญแจ 3 ลูกที่มีความหนาโดยทำงานคนเดียว การหาจุดมืดและจุดอับต่างๆในวัดและการรู้จุดที่วางวัตถุมงคลสำคัญที่มีราคาโดยเลือกเฉพาะรุ่นที่ต้องการ และการเอาเงินออกจากตู้เหล็กใบใหญ่ที่มีไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท ไม่รวมตู้ใบอื่นๆ 

นายพีรภัทร อั้นบุญโท หรือมาร์ค เจ้าหน้าที่แผนกวัตถุมงคล บอกว่าเข้านี้ได้สำรวจในวัดอีกรอบพบว่าคนร้ายได้บุกเข้ามาในวัดช่วงกลางดึกและคาดว่าจะมางัดประตูด้านข้างปีกซ้าย ของวิหารแต่เปิดไม่ออกจึงได้ตรงไปทุบกระจกที่ด้านข้างๆใกล้กันโดยทุบและทำการเอื้อมมือไปบิดลูกบิดเปิดหน้าต่างบานใหญ่เข้ามา จากนั้นได้ตรงมาที่ตู้วัตถุมงคล โดยได้เปิดตู้และเอาเหรียญเสมาหลวงพ่อพูล เนื้อทองแดง กรอบทองคำ รุ่น 1-2 ออกไป ซึ่งรุ่นหนึ่งสภาพสวยๆตอนนี้ในตลาดก็จะบูชากันถึง 4 แสนบาท และยังมีเหรียญรุ่น 1 หลวงพี่น้ำฝน รุ่น 1 พระกริ่งรุ่น 1 เนื้อโลหะ รมดำ พระยอดขุนพล รุ่น 1 พระปิดตารุ่น 1 โดยเป็นวัตถุมงคลที่หลวงพี่น้ำฝน มีเพียงชุดเดียวและได้นำมาจัดโชว์ให้กลุ่มนิยมพระเครื่องพระบูชา ได้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งก็เปิดให้เช่าบูชาไม่นานเพราะจะนำเงินมาสร้างศาลาหลวงพ่อพูล ที่มีการปรับปรุงอยู่ในตอนนี้ 

นอกจากนี้ที่ตู้เงินเหล็กใบใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าพระพุทธเมตตาประทานพร เคยเปิดดูเพื่อจะทำการเก็บแต่ก็ยังไม่ได้เก็บพบว่ามีเงินอยู่ราวครึ่งถัง น่าจะมีไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท ซึ่งตู้บริจาคในจุดต่างๆ ก็รวมแล้วอีกไม่น้อย แต่เมื่อวานนี้ได้สำรวจกันอย่างละเอียดพบว่า ตู้รับบริจาคเงินที่ตั้งอยู่ที่หน้าสังขารหลวงพ่อพูล และที่ตั้งอยู่ที่หน้ารูปปั้นกุมารสมบัติที่เป็นของมงคลยุคหลวงพ่อพูล คนร้ายกลับไม่เอาเงินออกไปสักบาทและไม่ได้แตะต้องเอาเงินไปด้วย ส่วนตัวก็ตกใจและอึ้งว่าทำไมคนร้ายไม่เอาไปด้วยเพราะตั้งอยู่เด่นชัด ส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อพูลที่มีอะไรมาดลใจคนร้ายไม่ให้มองเห็นตู้เงินรับบริจาคดังกล่าว เพราะตู้ก็มีความใสเห็นเงินได้ชัดเจนผิดกับตู้ใบอื่นๆที่เป็นแบบทึบ ส่วนตู้ที่หน้ารูปปั้นกุมารสมบัติก็เชื่อว่าความซุกซนของกุมารสมบัติอาจจะชอบแกล้งคนเพราะเลื่องชื่อเรื่องนี้มานานว่าเป็นกุมารที่ซุกซนแต่มักให้โชคลาภคนที่มาขอและนำไปบูชา 

ขณะที่การสำรวจพื้นที่ได้รับแจ้งว่า ภาพกล้องวงจรปิดของกองบังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดไผ่ล้อมสามารถจับภาพคนร้ายที่กำลังปีนออกจากวัดไผ่ล้อมที่หน้าอาคารตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเป็นบ้านพักประจำตำแหน่งของผู้อำนวยการโครงการอำนวยการศาลจังหวัดนครปฐมที่อยู่ติดกับรั้วของวัดไผ่ล้อมพอดี ซึ่งได้มีการติดตามไล่กล้องจับภาพคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดไว้ โดยเป็นการเย้ยกฎหมายเพราะก่อเหตุที่บริเวณสำคัญของส่วนราชการต่างๆ ซึ่งคาดว่าคนร้ายนั้นน่าจะเข้ามาสำรวจพื้นที่เป็นอย่างดี แต่ตำรวจก็เชื่อว่าจะได้ตัวคนร้ายไม่ยาก