In News
ผู้ว่าฯเชียงรายยืนยันโควิด-19ควบคุมได้ ชวนปชช.ล้างเมืองคืนความเชื่อมั่นนทท.
เชียงราย- เชียงรายดัก โควิด- 19 ได้ต่อเนื่อง ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ชวน Big cleaning Day รณรงค์สวมหน้ากากอนามัย 100% เผยไทม์ไลน์ สาว ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ที่ลอบเข้าเมือง แล้วไปส่งเพื่อน และ เที่ยวสิงห์ปาร์ค คืนวันที่ 29 พ.ย.คืนเดียวกับรายจังหวัดพะเยา แต่คนละกลุ่มกัน ตอนนี้เข้ารับการรักษาตัวแล้ว ขอย้ำอย่าหลงเชื่อข่าวลือ เวลานี้ต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจให้กับจังหวัดเชียงราย ไม่กล่าวโทษกัน ทีมสาธารณสุขเหน็ดเหนื่อยมาก แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเชียงรายเป็นเมืองชายแดน เป็นด่านแรกที่จะป้องกันเชื้อไม่ให้เข้าสู่ในประเทศ
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.นี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และนายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 8 ราย โดย 7 ราย อยู่ในศูนย์ Local Stage Quarantine หรือ (LSQ) เป็นหญิงอายุ 25 ปี 26 ปี (3 คน) 28 ปี 30 ปี 35 ปี โดยเดินทางมาจาก จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.และตรวจพบเชื้อใน LSQ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ส่วนอีก 1 ราย พบนอก LSQ พักอาศัยอยู่ในตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย มีประวัติเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดราชบุรี ทำให้จังหวัดเชียงรายมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวอยู่ ในสถานพยาบาลของรัฐรวม 34 ราย
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สำหรับผู้พบการติดเชื้อ 7 รายนั้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะถือว่าเข้าสู่ระบบที่ควบคุมได้ในแบบไม่มีเส้นทางสัมผัสในพื้นที่ (Time Line) แต่กรณีรายที่พบนอก LSQ เป็นเพื่อนบ้านกับหญิงสาวที่ติดเชื้อที่จังหวัดราชบุรี โดยลักลอบเข้าเมืองมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 จากนั้น ได้ไปส่งเพื่อนที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เพื่อเดินทางกลับจังหวัดราชบุรี ส่วนตัวเองเดินทางกลับบ้านที่ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย พร้อมกับแฟนหนุ่ม ต่อมามีข่าวว่าเพื่อนที่จังหวัดราชบุรี ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตัวเองเป็นกังวลและเก็บตัวอยู่ที่บ้านไม่ไปไหน กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2563 จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน และทราบผลติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจเชื้อในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง 8 ราย ตรวจไปแล้ว 5 ราย ผลไม่พบเชื้อ 2 ราย คือ สามีและเพื่อน และอีก 3 ราย อยู่ในระหว่างรอผล ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ทราบว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 70 รายแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ได้ร่วมกันสกัดกั้นตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด โดยมีการลาดตระเวน ติดกล้อง CCTV และไฟส่องสว่างตลอดแนว ที่ผ่านมาไม่พบการลักลอบ
"ขอย้ำว่า อย่าหลงเชื่อข่าวลือ เวลานี้ต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจให้กับจังหวัดเชียงราย ไม่กล่าวโทษกันและกัน ขณะนี้ทีมสาธารณสุขเหน็ดเหนื่อยมาก แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเชียงรายเป็นเมืองชายแดน เป็นด่านแรกที่จะป้องกันเชื้อไม่ให้เข้าสู่ในประเทศ สิ่งที่ต้องการตอนนี้คือกำลังใจ ดังนั้น ในวันที่ 10 ธันวาคม 2563 นี้ ขอเชิญชวนชาวเชียงรายร่วมกัน ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ วัด โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมกันทั่วทั้งจังหวัด และรณรงค์สวมหน้ากากอนามัย 100% และมาตรการ New Normal เพื่อประกาศว่าจังหวัดเชียงรายปลอดภัยสูงสุด
นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย แถลงด้วยว่า สำหรับผู้ติดเชื้อ 7 รายใน LSQ พบว่าไม่ได้มีแค่ผู้ทำงานอยู่ในโรงแรมวันจีวันเท่านั้น แต่ทำงานอยู่สถานบันเทิงแห่งอื่น ๆ ในจังหวัดท่าขี้เหล็กด้วย แต่กรณีของหญิงสาวที่พบเชื้อนอก LSQ นั้น ได้ปิดบังข้อมูลมาโดยตลอด และเพิ่งได้สารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าหลบหนีข้ามฝั่งมา ซึ่งหลังจากไปส่งเพื่อนชาวจังหวัดราชบุรี แล้ว ยังไปเที่ยวงาน ฟาร์มเฟสติวัล ออนเดอะฮิล 2020 ในสิงห์ปาร์ค ในคืนวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563 อีกด้วย แต่ไปกันคนละกลุ่มกับผู้ป่วยโควิด-19 ของรายจังหวัดพะเยา แม้จะมีไทม์ไลน์คาบเกี่ยวกันแต่เป็นคนละกลุ่ม ถือว่าโชคดีที่ไปเที่ยวงานในคืนเดียวกันทำให้สามารถตรวจสอบได้ครบถ้วนแล้ว ขณะที่รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานได้ปฏิบัติการ Active Case Finding ตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2563 มีผู้ใช้บริการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 4,852 ราย ผลยืนยันยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
ด้านนายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า อาการผู้ติดเชื้อที่เป็นหญิงนอก LSQ คนล่าสุดแทบไม่มีอาการใด ๆ เลย ส่วนอีก 7 คนใน LSQ มีเพียงบางคนที่จมูกไม่ได้กลิ่นเท่านั้น ซึ่งในวันที่ 9 ธันวาคม 2563 นี้ ก็จะอนุญาตให้ผู้ป่วยรายแรกกลับบ้านได้ และให้กักตัวเองอยู่ที่บ้านอีก 14 วัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องต่อไป
ธีรวัฒน์ คำธิตา / เชียงราย