In News
3แกนนำคณะก้าวไกลช่วยผู้สมัครมหาชัย ชิงชัยอบจ.-ฝ่าวงล้อมกลุ่มป้องสถานบัน
กรุงเทพฯ-กลุ่มคนปกป้องสถาบันแกงคณะก้าวหน้าขู่บุกเวทีปราศรัยอ้อมน้อย สกัดกั้น 3 แกนนำ ด้านธนาธรลั่น คว้าชัยศึก อบจ.และ อปท.ทุกพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศึกเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร ได้เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว โดยผู้สมัครต่างพากันลงพื้นที่หาเสียงอย่างคึกและเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น คณะก้าวหน้าสมุทรสาคร ก็ได้มีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ขึ้น ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม 2563 ณ ลานกิจกรรม ใกล้ทิวลิปสแควร์ หมู่ 12 ถ.เพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพฯ ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้แนวคิด “สมุทรสาครต้อง Chang ถึงเวลาต้องเปลี่ยน” โดยมีบรรดากลุ่มคนรักอนาคตใหม่ และคนรักธนาธรฯ เดินทางมารับฟังการปราศรัยกันเป็นจำนวนมากรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 500 คน ขณะที่ฝั่งตรงข้ามกัน คือ ฝั่งถนนเพชรเกษมขาออก ก็มีบรรดากลุ่มคนปกป้องสถาบันฯ กว่า 100 คน มายืนถือป้ายและเปิดเครื่องเสียงเพลงหนักแผ่นดิน พร้อมกับแสดงเจตนารมณ์ที่จะสกัดกั้นไม่ให้ 3 แกนนำของพรรคอนาคตใหม่ คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,นางสาวพรรณิการ์ (ช่อ) วานิช และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครคณะก้าวหน้าสมุทรสาคร หาเสียงเลือกตั้ง โดยอ้างว่าแกนนำทั้ง 3 คนนั้น ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์มาขึ้นเวทีปราศรัยถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งถ้าหากแกนนำทั้ง 3 คนขึ้นเวทีปราศรัย ทางกลุ่มคนปกป้องสถาบันฯ ก็จะย้ายข้ามฝั่งมาแล้วจะบุกเข้าไปในลานเวทีปราศรัย เพื่อไม่ให้ทั้ง 3 คน ได้ขึ้นเวที ส่วนผู้สมัครคนอื่นๆ รวมถึงนายอวยชัย จาตุรพันธ์ ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาครนั้น สามารถขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงได้ตามปกติ โดยการจัดตั้งเวทีปราศรัยของคณะก้าวหน้าในครั้งนี้ ก็มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ กกต.มาร่วมสังเกตการณ์ และควบคุมความสงบเรียบร้อย
สำหรับสถานการณ์ทั่วไป แม้ว่าจะค่อนข้างตรึงเครียดจากกลุ่มคนปกป้องสถาบันฯ ที่มาปักหลักอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ทั้งนี้ทางแกนนำทั้ง 3 คน ก็ยังคงยืนยันตามแผนการเดิมคือ เริ่มเปิดเวทีปราศรัยโดยนางสาวพรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ที่ประกาศตัวเองมาในฐานะผู้ช่วยผู้สมัครนายกและสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร เป็นคนแรก แต่ก่อนที่ช่อ พรรณิการ์ จะก้าวขึ้นเวทีนั้น ก็ได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊คก่อน เพื่อบอกให้ FC คนเสื้อส้มที่ไม่ได้มาร่วมเวทีปราศรัยรับรู้ว่า ฝั่งตรงข้ามนั้นมีการชุมนุมของกลุ่มปกป้องสถาบันและยังมีการใช้ถ้อยคำเชิงข่มขู่ในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้นอกจากช่อ พรรณิการ์ จะได้ไลฟ์สดให้กลุ่มคนภายนอกเวทีปราศรัยรับรู้สถานการณ์ที่ตรึงเครียดของฝั่งตรงข้ามแล้ว ยังได้ไลฟ์สด สอบถามรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนที่มาควบคุมสถานการณ์ด้วย โดยขอให้มีการตรวจสอบกลุ่มผู้ชุมนุมฝั่งตรงข้ามเกี่ยวกับเรื่องของการขออนุญาตชุมนุม การขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง และการใช้วาจาเชิงข่มขู่ ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่
จากนั้นนางสาวพรรณิการ์ ก็ได้ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายอวยชัย จาตุรพันธ์ ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร และผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร หาเสียง โดยเน้นไปที่นโยบายของคณะก้าวหน้าสมุทรสาคร จุดมุ่งหมายในการทำงานร่วมกันระหว่างการเมืองระดับประเทศ ที่จะต้องผสมผสานกับการเมืองระดับท้องถิ่น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยดีในทุกๆ ด้าน รวมถึงการใช้งบประมาณของ อบจ.สมุทรสาครปีละกว่า 800 ล้านบาท และการแก้ไขปัญหาสำคัญของจังหวัดที่จะต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมมากกว่าที่ผ่านมา อีกทั้งยังกล่าวถึงการใช้อำนาจเผด็จการของรัฐบาลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อการควบคุมการเมืองระดับท้องถิ่นอีกด้วย ซึ่งการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาครในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะเป็นการชี้ชะตาครั้งสำคัญของประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร ว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงจังหวัดสมุทรสาครไปสู่การเมืองท้องถิ่นในรูปแบบใหม่หรือไม่ โดยขอให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้
จากนั้นนายอวยชัย จาตุรพันธุ์ ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร ได้ขึ้นกล่าวนโยบายของคณะก้าวหน้าสมุทรสาคร ที่จะนำมาใช้เพื่อการพัฒนาจังหวัด หากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายก อบจ.สมุทรสาคร พร้อมกับสมาชิกทั้ง 27 เขตเลือกตั้งด้วย
ต่อมานายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นลำดับที่ 3 ซึ่งก็ได้กล่าวถึง ความสำคัญและความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองระดับประเทศ กับการเมืองระดับท้องถิ่นที่จะต้องเดินหน้าแก้ปัญหาให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ นายก อบจ.สมุทรสาคร กับ สมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร ในครั้งนี้ จะต้องไม่เป็นเบี้ยล่างของระบบเผด็จการ จึงขอให้พี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาคร เชื่อมั่นในทีมผู้สมัครคณะก้าวหน้าสมุทรสาคร ว่าจะทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาครอย่างแท้จริง ซึ่งขณะที่นายปิยบุตรฯ กำลังทำการปราศรัยจนใกล้จะจบแล้วนั้น ทางผู้ชุมนุมกลุ่มปกป้องสถาบัน ที่ปักหลักอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็ได้ประกาศจัดตั้งขบวนเตรียมเคลื่อนย้ายมายังฝั่งที่มีการตั้งเวทีปราศรัย ทำให้ พ.ต.อ.พิภบ พัชรลภัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถตรวจการณ์มาจอดเรียงเป็นแนวกั้นไว้ก่อน เพื่อเป็นด่านป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ปรากฏว่า หลังจากที่ขบวนได้เคลื่อนย้ายออกไปแล้ว ก็ตกลงที่จะแยกย้ายกันกลับไปตามที่แกนนำเห็นสมควรเพราะว่าไม่อยากให้เกิดการปะทะกันขึ้น
สุดท้ายเวลาประมาณ 20.15 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แกนนำคนสำคัญของทีมก้าวไกล และคณะก้าวหน้า ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกเสียงเชียร์จากผู้ที่มาเข้าร่วมรับฟังเป็นอย่างมาก ซึ่งนายธนาธรฯ ได้เน้นไปที่เรื่องของการใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาท ของ อบจ.สมุทรสาคร และยังได้ย้ำนโยบายที่สำคัญของคณะก้าวหน้าสมุทรสาครอีกด้วย เช่น การเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น ตบท้ายด้วยการประกาศว่า คณะก้าวหน้า นับเป็นกลุ่มการเมืองระดับท้องถิ่นกลุ่มเดียว ที่มีการส่งผู้สมัครลงแข่งขันมากที่สุดโดยทั่วทั้งประเทศส่งผู้ลงสมัครถึง 42 จังหวัด จำนวน 1000 คน ซึ่งการลงแข่งขันศึกนายก อบจ. สมุทรสาคร กับสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาครครั้งนี้ ก็มั่นใจว่าจะต้องคว้าชัยมาได้อย่างแน่นอน รวมถึงในอนาคตกับการเลือกตั้งเทศบาลและ อบต. ทางคณะก้าวหน้าก็จะส่งผู้สมัครลงแข่งขันอีก และก็มั่นใจเหมือนกันว่าชัยชนะจะอยู่กับคณะก้าวหน้าอย่างแน่นอน