In News
ภูเก็ตแถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19อีก2คน ลูกชายผู้ป่วยคนแรกอีก26คนมีผลเป็นลบ
ภูเก็ต-ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูเก็ต แถลงความคืบหน้าการพบติดเชื้อโควิด-19เพิ่ม 1 ราย เป็นลูกชายผู้ป่วยรายแรก ร่วมเป็น 2 ราย อีก26 รายโล่งอก ผลตรวจเป็นลบ
วันที่ 23 ธ.ค.63 นายแพทย์เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยัน จำนวน 1 ราย เป็นชายอายุ 40 ปี และมีผู้ที่สัมผัสเสียงสูงจำนวน 28 คน ประกอบด้วยกลุ่มเพื่อนที่เดินทางไปเกาะลันตาด้วยกันจำนวน 6 คน เพื่อนร่วมงานจำนวน 17 คน เพื่อนสนิทในพื้นที่ป่าตอง 1 คน และคนในครอบจำนวน 4 คน รวมทั้งหมด 28 คน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สว็อปและส่งตัวอย่างไปตรวจหาเชื่อโควิดทั้งหมด โดยผลการตรวจทั้ง 28 คน ที่มีการสัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดกับผู้ป่วยออกมาแล้ว ผลปรากฎว่า ในส่วนของกลุ่มเพื่อนที่ร่วมเดินไปเกาะลันตาจำนวน 6 คน ผลตรวจเป็นออกมาเป็นลบ ส่วนเพื่อนร่วมงานจำนวน 17 คน ผลออกมาเป็นลบ รวมทั้งเพื่อนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าตองจำนวน 1 คน ผลออกมาเป็นลบเช่นกัน ส่วนคนในครอบครัว จำนวน 4 คน ซึ่งประกอบด้วยภรรยาและลูกจำนวน 3 คน ปรากฏว่า ภรรยา และลูกสาวคนกลาง ผลตรวจเป็นลบ แต่ที่ลูกชายคนโต และลูกชายคนเล็กผลตรวจออกเป็นบวก
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทั้ง 2 คนอยู่ในความดูแลของแพทย์ โรงพยาบาลป่าตอง ส่วนไทม์ไลน์ของรายใหม่ทั้ง 2 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดทาง โรงเรียนในเครือขจรเกียรติได้ออกประกาศฉบับที่ 3 แจ้งเรื่อง ผลการตรวจสอบโควิด ของนักเรียนในโรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา โดยระบุว่า “จากประกาศโรงเรียนในเครือขจรเกียรติฉบับก่อนหน้าที่โรงเรียนได้รับแจ้งว่ามีผู้ปกครองของนักเรียนขจรเกียรติพัฒนา 1 ท่าน มีผลการทดสอบเป็นบวกนั้น ในขณะนี้ทางโรงเรียนในเครือขจรเกียรติได้รับทราบผลของนักเรียนชั้นป.3 อย่างไม่เป็นทางการในการทดสอบรอบที่ 1 เป็นบวก และต้องรอผลรอบ 2 เพื่อให้ทางจังหวัดยืนยันเป็นทางการอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนได้ทำการประสานงานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่าต้องการจะทำการติดต่อผู้มีความเสี่ยงสูง (โรงเรียนได้ทำรายชื่อไว้เรียบร้อยแล้ว) เพื่อทำการ swap test ทุกเคสในช่วงเย็นวันนี้ (ทางโรงเรียนได้ติดต่อผู้ปกครองนักเรียนและครูทุกท่านแล้ว) ทางโรงเรียนจะสื่อสารแจ้งแนวทางการบริหารสถานการณ์สำหรับนักเรียนมีความเสี่ยงต่ำ และเผยแพร่ไทม์ไลน์ในช่วงที่นักเรียนอยู่ในโรงเรียนในประกาศฉบับต่อไป