In News

วัคซีนโควิดมาแล้ว!2แสนโดสถึงก.พ.นี้



กรุงเทพฯ-ครม.เห็นชอบในเรื่องการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมในกรณีเร่งด่วนว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกันจากผู้แทนบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ที่จะจัดหาวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดส โดยวัคซีนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาใช้กับคนไทย จะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย.ประเทศจีน และเมื่อ อย.ของจีนอนุมัติแล้วจะต้องนำมาให้ทาง อย.ประเทศไทย เป็นผู้อนุมัติด้วย

 ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยงานที่จะนำเข้ามาจะเป็นองค์การเภสัชกรรม จะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและกระจายไปสู่ ปชช.ทั่วไป ซึ่งในขณะนี้ได้มีวงเงินจัดสรร 1,228 ล้านบาท ในการที่จะเร่งจัดหาวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดส เข้ามากระจายแก่ คนไทยโดยเร็ว โดยแบ่งขั้นตอน ดังนี้

จำนวน 200,000 โดส แรก จะนำเข้ามาในเดือน ก.พ. 64 ซึ่งจะส่งมอบแก่เจ้าหน้าที่ตาม รพ.ต่าง ๆ เพื่อไปฉีดแก่ผู้ที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ที่มีการควบคุมสูงสุด เช่น สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี เป็นต้น ประมาณ 20,000 คน และในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อและมีภาวะแทรกซ้อนสูง รวมถึงกลุ่มจำเป็น อื่น ๆ อีก 180,000 คน

Lot ถัดไปจะได้ในเดือน มี.ค. 64 อีกประมาณ 800,000 โดส ซึ่งจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กลุ่มที่ 1 จำนวน 200,000 โดส และอีก 600,000 โดส จะฉีดให้แก่กลุ่มจังหวัดที่มีการควบคุมสูงสุด รวมถึงจังหวัดแนวชายแดนภาคตะวันตก ภาคใต้ และบุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ รวมถึง อสม. ด้วย ประมาณ 60,000 ราย และฉีดให้แก่กลุ่มที่ติดเชื้อมีภาวะแทรกซ้อนสูง และกลุ่มจำเป็นอื่น ๆ อีกจำนวน 540,000 คน

ส่วน Lot ที่ 3 ในเดือน เม.ย. 64 จะได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 2 ล้าน โดส จะนำไปฉีด โดสที่ 2 ในกลุ่มที่ได้กล่าวถึงในรอบที่แล้ว ที่ฉีดไปแล้วใน 800,000 โดสแรก ประมาณ 600,000 คน ส่วนอีก 400,000 โดส ก็จะให้แก่บุคลากรอื่น ๆ เพิ่มเติม เพราะฉะนั้นจะเป็น 2 ล้าน โดสแรก ที่จะเข้ามาในปี 2564 นี้ โดย ประชาชน 1 คนจะได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 2 โดส หลังจากนั้น มีการที่ประเทศไทยได้มีการจองซื้อวัคซีน 26 ล้านโดส จาก บ.แอสตร้า เซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะนำเข้ามาให้ชาวไทยได้ใช้ประมาณกลางปี 2564

ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติเพิ่มเติมในการหาวัคซีนเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส ให้คุ้มครองคนไทยได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของจำนวน ปชช ในประเทศ โดยยอดรวมทั้งสิ้นของวัคซีนที่จะนำมาให้แก่คนไทยได้ใช้ ก็คือ 63 ล้านโดส ซึ่งคนไทยจะได้ใช้ในปี 2564 นี้

สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่และไปยังจุดเสี่ยงตามประกาศของรัฐบาลให้เตรียมความพร้อมตามนี้