In News
เผย2ส.ส.เพื่อไทยยันไม่ถอนชื่อถอด'สิระ'
อุดรธานี- วันที่ 8 มกราคม 2564 เวลา 11.45 น. ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และ นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกับสื่อมวลชน จ.อุดรธานี กรณีที่ ส.ส.ทั้ง 2 คน ถอนชื่อออกจากคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของ นายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) หรือไม่ กรณีนายสิระ เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวันกระทำความผิดอาญาฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341
นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย แถลงว่า เราทั้ง 2 คน ขอชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ กรณีที่มีข่าวออกมา เรื่องญัตติของพรรคเสรีรวมไทย ที่จะถอดถอน ส.ส.สิระ เจนจาคะ ว่าตนและนางอาภรณ์ สาราคำ เป็นอย่างไร โดยเมื่อญัตติมาถึง ตนได้เซ็นชื่อกับเพื่อนหลาย ๆ คน แต่วันต่อมามีหลายกระแสออกมา คือเรื่องนี้ไม่ได้เป็นมติของพรรคเพื่อไทย พอเราทราบ เราทั้ง 2 คน จึงไปถอนรายชื่อออก แต่พอทราบว่ารายชื่อไม่ครบ ตนก็ทำหนังสือยืนยันรายชื่อเข้าไปใหม่ ดังนั้น ข่าวที่ออกมานั้นไม่จบกระบวนความ ว่าเรา 2 คน ได้ยื่นเข้าไปใหม่อีกครั้ง เหมือนอย่างที่ทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่ามี 2 คนของพรรคเพื่อไทย ได้บอกว่ามี 2 คนจากเพื่อไทยได้ยื่นหนังสือมาให้ใหม่อีกครั้ง ตามที่ท่านได้แถลงข่าวในวันนี้
เราไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ และอื่นใด ทั้งทางตรงและทางอ้อมเลย นี่คือความสัตย์จริง เรารับว่าเราถอน แต่เรายื่นเข้าไปใหม่ เพื่อที่จะถอดถอน ส.ส.สิระ เจนจาคะ เพราะว่าในขณะที่เราสับสนในมติพรรคเราก็ถอน แต่เมื่อเรามั่นใจว่า นี่คือการทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส.ที่ดีที่สุด ในการถอดถอนคนที่คนทั้งประเทศต้องการให้ถอดถอน เราก็ทำ ตามหนังสือที่เราได้แสดงเจตจำนงค์อย่างชัดเจนไปแล้ว เราขอกล่าวกับคนทั้งประเทศอีกครั้งว่า เราไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ และผลประโยชน์อื่นใดเลย ต้องบอกว่าอย่างนี้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรายังยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างมั่นคง และแม่นมั่น ตั้งแต่ไทยรักไทย มาพลังประชาชน มาเพื่อไทย ใยเรื่องแค่นี้ต้องมีผลประโยชน์เกิดกับบุคคลที่ยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างเรา 2 คน ขอให้ความเป็นธรรมกับเรา 2 คนด้วย
ด้าน นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนยังยึดมั่นในอุดมการณ์ ที่รักประชาธิปไตย การต่อสู้ของครอบครัวของตนกว่า 10 ปี ที่อยู่กับพ่อแม่พี่น้องชาว จ.อุดรธานี และเป็น ส.ส.ในเขต 4 พรรคเพื่อไทย และเป็นตัวแทนของพ่อแม่พี่น้องชาว จ.อุดรธานี ก็ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่ได้รับเงินแต่อย่างใดทั้งสิ้น ครอบครัวของตนยังรักประชาธิปไตย และเพื่อกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองคืนมา ที่มีการกล่าวหาว่าเราทั้ง 2 คน ไปเซนต์ชื่อกลับคืนว่าไม่ครบ 2 คน เราได้ทำหนังสือถึงสภาฯ เพื่อลงชื่อแล้ว แต่ยังไม่ไปถึงศาล ที่ว่าเราไปรับเงิน และเหยียบย่ำศักดิ์ศรี ส.ส.ว่าเราต่าง ๆ นา ๆ จึงต้องแถลงข่าวให้พ่อแม่พี่น้องทุกคนทราบว่า เราเป็น ส.ส.ด้วยอุดมการณ์ เงินซื้อไม่ได้ คนอีสานไม่สามารถที่จะซื้อเสียงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะมีการฟ้องร้องคนที่มาใส่ร้ายหรือไม่ นางอนุรักษ์ กล่าวว่า แน่นอน ถ้าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เราเป็นมนุษย์ หัวใจเรามีเลือดเนื้อ เรามีความรู้สึก เราจำเป็นที่จะต้องโต้ตอบด้วยกรณีนี้ ซึ่งเราไม่ได้มีเจตนาที่จะหาเรื่อง แต่เราขอทวงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความแม่นมั่นในศรัทธาและอุดมการณ์ประชาธิปไตยของคน จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี ด้วย ซึ่งการถอดถอนพรรคเพื่อไทยเราก็กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้หากมีการให้ลงชื่ออีก นางอาภรณ์จะเซ็นชื่อเป็นคนแรก และตนจะเซ็นชื่อเป็นคนที่สอง เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีของคนอีสาน และศักดิ์ศรีที่ไม่ให้คนมาเหยียบย่ำด้วยผลประโยชน์อื่นใด นี่คือความจริงที่เรานำมาชี้แจงความจริงให้คนทั้งประเทศ และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ทราบ แล้วเราก็มีหลักฐานชัดเจน ตามที่นำมาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู ที่จะสามารถฟ้องร้องได้หรือไม่ ที่มีคนมาว่าเรา ซึ่งมันไม่เป็นความจริงทั้งหมด
คุณมาตัดตอนมาว่าเรา ประเทศนี้จะให้ด่ากันหรือ ทำไมไม่ฟังเหตุผลของทุกฝ่าย คุณถึงจะเอาไปสังเคราะห์ ทุกคนมีเหตุผล แล้วทางพรรคก็บอกแล้วว่า มันมีความสับสนในเรื่องของมติพรรคฯ และในเรื่องของพรรค เราเคาระมติพรรคอยู่แล้ว เราไม่ได้เห็นแก่อามิสสินจ้าง แล้วพอเรารู้ว่า จำนวนคนที่ทางพรรคเสรีรวมไทย เรายืนยันที่จะถอดถอนนายสิระฯ เชื่อเถิดว่า จะมีการถอดถอนบุคคลนี้ เราจะเซนต์ชื่อให้ เพื่อที่จะได้เดินหน้าถอดถอน ตนคิดว่าจะได้มากกว่า 50 รายชื่อด้วย
กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี