In News

นายกฯรุกปรับโฉมภาคบริการราชการไทย เพิ่มรูปแบบ e-Service ติดต่อออนไลน์



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปรับโฉมภาคบริการราชการไทย เพิ่มรูปแบบ e-Service ติดต่อออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว สอดคล้องเทคโนโลยี รองรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของประชาชนในปัจจุบัน

วันนี้ 22 ต.ค. 65 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งมั่นขับเคลื่อนรัฐบาลสู่ระบบดิจิทัล ให้ส่วนราชการเตรียมความพร้อมให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐ ในรูปแบบ e-Service โดยประชาชนสามารถยื่นคำขออนุญาตโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องจะปฏิเสธไม่รับการขออนุญาตไม่ได้

ทั้งนี้ พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และจะมีผลใช้บังคับทั้งฉบับวันที่ 10 มกราคม 2566 ทั้งนี้ การติดต่อราชการทุกแห่งสามารถทำได้ด้วยออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องไปทำธุรกรรมด้วยตนเอง ยกเว้นการให้บริการเพียง 5 ประเภทนี้ ได้แก่ จดทะเบียนสมรส หย่า แจ้งรับบุตรบุญธรรม การทำบัตรประชาชนและพาสปอร์ต เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพแก่การปฏิบัติราชการของภาครัฐ และยังรองรับสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของประชาชนในปัจจุบัน ทั้งนี้ ประชาชนจะได้รับความสะดวกในการติดต่อราชการ ในการยื่นขออนุญาต ขอรับสวัสดิการ สามารถยื่นเอกสารขอรับบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งหรือส่งใบอนุญาตให้ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ไม่ต้องไปรับด้วยตนเอง

นอกจากนี้ ยังสามารถรับเงินจ่ายเงินออนไลน์ พร้อมได้ใบเสร็จ เมื่อประชาชนนำเอกสารตัวจริงมาแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องทำสำเนาและรับรองเอง ประชาชนไม่ต้องเสียเงินในการถ่ายเอกสาร แสดงบัตรหรือใบอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เจ้าหน้าที่ดูแทนได้ โดยประชาชนยังสามารถตรวจใบอนุญาตทางออนไลน์ได้

“หน่วยงานรัฐทุกหน่วยต้องมีช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อีเมลกลางของหน่วยงาน เพื่อเป็นช่องทางให้บริการประชาชน ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์แก่การดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชน การทำธุรกรรมของภาคเอกชน ยังเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการยกระดับรูปแบบการบริหารงานและการบริการภาครัฐไปสู่ระบบดิจิทัลด้วย” นายอนุชา กล่าว