In News

'อนุทิน'เผยไทยไม่ประมาท'ไวรัสอีโบล่า' แม้WHOไม่ประกาศ/ไม่กระทบเที่ยวไทย



กรุงเทพฯ-รองนายกฯ อนุทิน เผยไทยไม่ประมาทโรคติดเชื้อไวรัสอีโบล่า แม้ WHO ยังไม่ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ด่านควบคุมโรคมีมาตรการคัดกรองเข้ม เชื่อไม่กระทบท่องเที่ยวไทยที่กำลังฟื้นต่อเนื่อง

วันที่ 25 ตุลาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้รับรายงานจากกรมควบคุมโรคถึงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศในทวีปแอฟริกาซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อในประเทศยูกันดาหลายเมือง จำนวน 90 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 44 ราย

อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนผู้ป่วยยังไม่มากและองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่ได้ประกาศให้การระบาดครั้งนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) แต่กระทรวงสาธารณสุขของไทยไม่ประมาท โดยได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด และตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมาได้ยกระดับมาตรการป้องกันที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เนื่องจากโรคอีโบลาเป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยตรวจคัดกรองผู้เดินทางมาจากประเทศยูกันดาทุกคน โดยต้องลงทะเบียน ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเข้าประเทศไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ได้กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ให้นำมาตรการตรวจคัดกรอง ป้องกันและควบคุมโควิด19 มาใช้ในการดูแลคัดกรองและป้องกันโรคในครั้งนี้  โดยรองนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ในการรับมือกับโควิด19 ของทุกประเทศทั่วโลกใน 3 ปีที่ผ่านมาสามารถจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาให้อยู่ในวงจำกัด ไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัวอยู่ในขณะนี้ 

โดยในส่วนการท่องเที่ยวไทยเองก็มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากกำลังเข้าอยู่ช่วงไฮซีซัน ขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทยทั้งทางอากาศ ทางบกและทางเรือ ซึ่งล่าสุดเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียได้นำคณะนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนภูเก็ตในรอบเกือบ 3 ปี และหลังจากนี้จะมีเข้ามาทุกสัปดาห์นับเป็นสัญญาณที่ดี ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่นักท่องเที่ยวมีต่อประเทศไทย