In News
เชียงรายยันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก1คน เผยเคยตรวจเป็นลบ-ผู้ว่าฯมั่นใจเอาอยู่
เชียงราย-ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในห้วงนี้ เพศชาย อายุ 28 ปี มีประวัติเที่ยวร้านวอร์มอัพ และริเวอร์ไซต์ เมื่อช่วงต้นปี จากนั้นเคยไปตรวจหาเชื้อ 1 ครั้งแต่เป็นลบ จึงกักตัวอยู่บ้านครบ 14 วัน ไปตรวจอีกครั้งก่อนจะไป ทำงาน กทม.ผลเป็นบวก จึงตรวจคนใกล้ชิดเสี่ยงสูง 7 คน ยังเป็นลบ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มั่นใจคุมสถานการณ์ได้ จังหวัดยังเดินทางเข้า-ออก ปกติ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 ม.ค. 2564 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย, นายแพทย์สมศักดิ์ อุทัยพิบูลย์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แถลงข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ณ ห้องประชุมอู่หลง ศาลากลาง จ.เชียงราย
โดยล่าสุด เป็นชายอายุ 28 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ทำงานเป็นพนักงานบริษัทที่กรุงเทพฯ และเดินทางกลับบ้านด้วยเครื่องบินเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 จากนั้น ไปร่วมงานศพญาติที่ อ.แม่จัน ,วันที่ 26 ธ.ค. นั่งรถโดยสารไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ โดยไปเที่ยวสถานบันเทิง ร้านอาหารหลายแห่ง โดยเฉพาะคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไปที่ร้านวอร์มอัพ ซึ่งเป็นข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน จนถึงวันที่ 5 ม.ค. 2564 จึงกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ต่อมาวันที่ 6 ม.ค. ได้ไปขอตรวจไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พบผลเป็นลบ แต่ทางบริษัทได้แจ้งให้กักตัวก่อน ทำให้ได้กักตัวที่บ้าน 14 วัน จนถึงวันที่ 19 ม.ค. จึงไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลเอกชน (เกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์) ปรากฎว่าพบผลเป็นบวก จึงส่งตรวจที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ก็พบผลยืนยันในที่สุด
ปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยไม่มีไข้ แต่มีอาการไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบมีกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 ราย ซึ่งเป็นพ่อ แม่ และน้องชาย รวม 3 คน แต่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ และเพื่อนที่เดินทางไปส่งจาก จ.เชียงใหม่ กลับเชียงราย 1 คน อาศัยอยู่ จ.เชียงใหม่ จึงประสานให้พื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบแล้ว รวมทั้งมีญาติใกล้ชิดอีก 1 คน แต่ตรวจไม่พบเชื้อ นอกจากนี้มีเพื่อนที่รับประทานอาหารร่วมกันที่ตัวเมืองเชียงราย หลังไปตรวจที่ ร.พ.ในวันที่ 19 ม.ค. อีก 2 คนอยู่ระหว่างนัดตรวจวันที่ 25 ม.ค.นี้ ขณะที่มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 6 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลให้เฝ้าระวังตัวเอง 14 วันแล้ว
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จ.เชียงราย สามารถควบคุมการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนได้ผล แต่ก็พบว่าการเดินทางภายในประเทศควบคุมได้ยากกว่า เพราะเป็นการสัญจรไปมาภายในโดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีการเดินทางกลับบ้าน และมาท่องเที่ยวช่วงปลายปี แต่กรณีนี้ถือว่าเขามีความรับผิดชอบ เพราะมีการกักตัวเองเอาไว้ที่บ้าน 14 วัน และสมัครใจไปรับการตรวจถึง 2 ครั้ง มาตรการคือเมื่อพบผู้ติดเชื้อต้องเข้าไปแก้ไขให้เร็วที่สุด และที่ผ่านมามีกองกำลังป้องกันชายแดนดูแลป้องกันแนวพรมแดนได้อย่างดี และไม่ควรตื่นตระหนกเพราะมีการป้องกันเต็มที่ตามมาตรการของ ศบค.ส่วนกลาง ประชาชนชาวเชียงราย สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างพื้นผิวสัมผัส ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ ก็จะปลอดภัย ฯลฯ หากพบผู้ติดเชื้อก็นำตัวไปรักษาตามขั้นตอน และจังหวัดเชียงราย ประชาชนยังเดินทางเข้า-ออก ปกติ แต่จะมีจุดตรวจคัดกรองตามเส้นทางอำเภอต่างๆ
นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้มีประวัติไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ หลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะร้านวอร์มอัพ และริเวอร์ไซต์ โดยกลุ่มที่นั่งดื่มกินด้วยกัน 9 คน พบการติดเชื้อถึง 7 คนโดยรายนี้ถือเป็น 1 ในนั้นด้วย ถึงแม้เมื่อผู้ติดเชื้อเข้าสู่ จ.เชียงราย แล้วถือว่าไม่น่าห่วงเพราะมีการกักตัวเอง ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่รอผลตรวจอีก 2 ราย เพราะไปพบกันโดยบังเอิญหลังจากที่ผู้ติดเชื้อได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่มีความกังวลอยากจะไปตรวจหาเชื้อตนยืนยันว่าสามารถไปขอตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งฟรี โดยไม่ต้องไปเสียเงินตามโรงพยาบาลเอกชน แต่จะต้องผ่านการสอบสวนโรคก่อนเท่านั้น รายนี้ถือว่าเป็นรายที่ 65 ของจังหวัดเชียงราย แต่ถือว่าเป็น รายที่ 2 ที่พบการติดเชื้อในพื้นที่ เพราะอีก 63 คน เป็นการติดเชื้อนำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคนแรกที่พบก็มาจาก เมืองท่าขี้เหล็ก กลุ่มสถานบันเทิง วันจีวัน ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่สุดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา สุดท้ายก็มาถึงเคสนี้ และถือว่าเชื้อแสดงมีระยะฟักตัวราว 14 วัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ บางครั้ง 5-7 วัน หรือ 7-14 วันก็มี
ส่วนโรงเรียนบางแห่งในพื้นที่ อ.แม่จัน ที่ประกาศปิดไป 2 วัน เพราะเกิดความกังวล ในส่วนของที่ประชุมชุดเล็กของจังหวัด ประชุมกันแล้วจะไปหารือกับผู้บริหารโรงเรียน เพราะที่จริงแล้วโรงเรียนจะปิด ก็เพราะพบว่ามีนักเรียน หรือ บุคลากรในโรงเรียนติด แต่หากบุคลากร หรือ นักเรียนในโรงเรียนไปในพื้นที่เสี่ยง ก็แค่ให้กักตัวอยู่บ้านเท่านั้น กรณีนี้จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะปิดโรงเรียน
ธีรวัฒน์ คำธิตา / เชียงราย