In News
ชาวนาปราจีนฯร้องภัยแล้งมาน้ำเค็มหนุน นาข้าวรอยืนต้นตาย-ขอน้ำห้วยสโมงด่วน
ปราจีนบุรี- ร้องทุกข์ พิษภัยแล้งเจอน้ำเค็มหนุนแม่น้ำปราจีนบุรี ค่าความเค็มกว่า7 มก./ล. ข้าวกำลังตั้งท้อง รอยืนต้นตาย ร้องขอน้ำจืดเขื่อนห้วยสโมงด่วน
วันนี้ 28 ม.ค.64 ที่ศูนย์ราชการใหม่ ศาลากลาง จ.ปราจีนบุรี กลุ่มชาวบ้านจาก ต.บางแตน,ต.บางยาง และ ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และ ต.บางกระเจ็ด ต.หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชืงเทรา รวม กว่า 60 คน ได้เป็นตัวแทนเกษตรกรชาวนาข้าว ยื่นหนังสือถึง ผวจ.ปราจีนบุรี ปัญหาน้ำเค็มหนุน ในแม่น้ำปราจีนบุรี ค่าระดับความเค็มมากกว่า 7 มก./ล. ชาวนาเดือดร้อน ไม่สามารถใช้อุปโภค-บริโภค หรือทำประโยชน์ทางการเกษตร ได้โดยเฉพาะ นาข้าวที่กำลังตั้งท้อง ต้องขาดน้ำจืดจะต้องรอ ยืนต้นตาย มีความประสงค์ ให้กรมชลประทานปล่อยน้ำจืดจากเขื่อนห้วยสโมง หรือ นฤบดินทร์จินดาในปริมาณวันละ 3 ล้าน ลบ.ม รวม 10 วัน เพื่อ ให้เกษตรกรสามารถกักเก็บ-ดูดเข้านาข้าว แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำจืด แก่ชาวนาข้าว
จากนั้น ได้จัดตัวแทนชาวบ้านคือผู้นำชุมชน ทั้งหมด 12 คน คือ 1. นายสายพิณ ศรีเพชร เกษตรกร 2. นายจำรัส ง้อบุตร ตัวแทน สภาเกษตร 3. นายบุญช่วย ทองศิริ ตัวแทนเกษตรกร 4. นายมาโนช พูนทรัพย์ ผู้นำชุมชนบางยาง 5. นายพยนต์ พฤกษา กำนันตำบล บางยาง 6. นางละชวย ศาลา ผู้นำชุมชนบางแตน 7. นายมนต์ชัย ศรีฤกษ ผู้นำชุมชนบางกระเจ็ด อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา 8. นายจำรูญ สวยดี กรรมการ ลุ่มน้ำ 9. นางสุภาพร ทองเอม ผู้นำชุมชน 10. นาย ทองอยู่ บุญสาลี อดีตนายกบางกระเจ็ด อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา 11. นายชาญชัย วง วงคำภู กำนัน บางกระเจ็ด 12.นางวรรณ โสภา กำนันตำบลหัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
เข้าประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกับ นายบัญชาเชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พ. อ สุรวิทย์ แดงจันทร์ รองผอ. รมน. จังหวัดปราจีนบุรีนายสุรเทพ กิจกล้า เกษตร และสหกรณ์ จังหวัดปราจีนบุรี นายจำนงค์ ธรรมสวน ผู้อำนวยการชลประทานและพร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
โดย ได้ร่วมหารือปัญหาของชาวบ้าน อ. บ้านสร้างจ.ปราจีนบุรี และ ชาวจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำเค็มหนุนแม่น้ำปราจีนบุรี ที่ ห้องประชุม สระมรกต แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ทั้งนี้ ชาวบ้าน จากเกษตรกรชาวนาข้าว อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เขตรอยต่อกันได้ร้องทุกข์ว่า ช่วงหน้าแล้งนี้แม่น้ำปราจีนบุรี ได้เกิดภาวะน้ำเค็มจากปากอ่าวไทยหนุนขึ้นสูงถึงพื้นที่ อ.บ้านสร้าง ค่าความเค็มสูงสุด ระดับ 7 มก./ล. เกษตรกรใน ต.บางแตน ,ต.บางยาง ต.บางเตยอ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และพื้นที่รอยต่อ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ไม่สามารถใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และ ใช้ในการเกษตรกรรมได้ เคยประชุมชาวนาข้าวในจังหวัดฉะเชิงเทรา จ.ปราจีนบุรีเพื่อขอน้ำจืดจากเขื่อนนฤบดินทรจินดา และเขื่อนแควระบมสียัดเพื่อผลักดันช่วยเหลือก่อนหน้า 2 ครั้ง แต่น้ำจืดไม่เพียงพอ
น.ส.ระชวย ศาลา อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านอ้อม หมู่ 4 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ น้ำเค็มหนุนในแม่น้ำปราจีนบุรี และแม่น้ำนครนายก ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.64 ค่าความเค็มตั้งแต่ระดับ 1 มก./ล. ปัจจุบันวันนี้ (28 ม.ค.) ค่าความเค็มวัดได้กว่า 7 มก./ล. พื้นที่กว่า 800 ไร่ของเกษตรกรนาข้าว ที่ในพื้นที่นี้ ใช้น้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรี และแม่น้ำนครนายก ก่อนแม่น้ำ 2 สาย จะรวมกันเป็นแม่น้ำบางปะกง ไม่สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ อยากให้ทางเขื่อนนฤบดินทรจินดา ปล่อยน้ำจืดมาช่วยเหลือชาวนาโดยด่วย ก่อนที่ข้าวที่ปลูกรอผลผลิตจะยืนต้นแห้งตาย” น.ส.ระชวย กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า “นอกจากทำนาข้าวแล้ว ในพื้นที่ใกล้บ้านตนเองยังทำแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ได้ขุดบ่อน้ำจืด ปลูกพืชสวนครัว อาทิ มะระ ,บวบ ,มะเขือ ,พริก ,ตะไคร้ ,เลี้ยงปลานิล ปลาทับทิม ซึ่งหากน้ำเค็มยังหนุนยาวนาน แหล่งน้ำในสระไม่เพียงพอสำหรับใช้แน่นอน”น.ส.ระชวย กล่าว
ขณะที่ นายบุญช่วย หลงศิริ อายุ 65 ปี ประธานข้าวแปลงใหญ่ ,ประธานศูนย์ข้าวชุมชน ต.บางยาง อ.บางยาง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “น้ำเค็มหนุนแม่น้ำปราจีนบุรี เข้าพื้นที่ ต.บางยาง ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ขณะนี้ (28ม.ค.)ค่าความเค็มในแม่น้ำปราจีนบุรี กว่า 4 มก./ล. ใช้กับนาข้าว ที่กำลังตั้งท้อง รอออกรวงประมาณเดือน ก.พ.64 ไม่ได้เลย
ตอนนี้ตนเองทำนา 4 แปลง รวม 90 ไร่ เป็นข้าวหนัก 2 แปลง ข้าวเบา 2 แปลง แต่เกษตรกร ต.บางยางส่วนใหญ่ทำข้าวหนัก ราคาข้าว ราคาดี ปัจจุบัน 8,600 บาท /ไร่ สมาชิกนาข้าว รวม 34 ราย นาข้าวกว่า 1,600ไร่ ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด อยากให้เขื่อนนฤบดินทรจินดา ปล่อยน้ำจืดมาให้เกษตรกรวันละ 3ล้าน ลบ.เมตร/วัน รวม 10 วัน 30 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้เกษตรกรสามารถสูบกักเก็บได้ และ ช่วงดังกล่าวขอความร่วมมือ ให้ภาคอุตสาหกรรมเหนือน้ำงดดูดน้ำชั่วคราว ” นายบุญช่วย กล่าว
ด้านนางเพ็ญศรี มณี อายุ 54 ปี 32 หมู่ 5 ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ ทำนา 45 ไร่ น้ำเค็มหนุนแม่น้ำปราจีนบุรีสร้างความเดือดร้อน ที่ต้องวิดน้ำขึ้นสำหรับนาข้าว น้ำจืดไม่เพียงพอ ข้าวต้องเองอายุ 110 วัน ขาดน้ำเดือนกว่า อยากให้กรมชลประทานฯได้ช่วยเหลือ ช่วยข้าวหนัก ให้ปล่อยน้ำจืดมาผลักดันน้ำเค็ม ส่วนน้ำใช้มีบ่อน้ำไม่มีปัญหา” นางเพ็ญศรี กล่าว
ขณะที่นายสำอาง ชลารักษ์ หมู่ 3 ต.บางแตน อ.บ้าสร้าง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “เป็นประธานศูนย์เรียนรู้ อ.บ้านสร้าง ปัญหาน้ำเค็มหนุนในแม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก มีมานานแล้ว ทุก ๆ ต้นเดือน ม.ค. น้ำเค็มจะหนุนตลอด ใช้ประโยชน์ทางการเกษตร หรือ อุปโภค – บริโภคไม่ได้ ตนเองได้วางแผนช่วงหน้าแล้งน้ำเค็มหนุน โดยขุดสระน้ำในพื้นที่กว่า 1 ไร่ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำจืดในหน้าแล้ง บนสันสระใช้ปลูกพืชสวนครัว มะเขือ ,พริก ตะไคร้ คะน้า ,หอม สำหรับกิน – เหลือขาย และใช้ สำหรับนาข้าวเนื้อที่กว่า 50 ไร่ โดยไม่มีปัญหาช่วงน้ำเค็มหนุน”นายสำอาง กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังการประชุมนายบุญช่วย หลงศิริ เกษตรกรได้ยื่นหนังสือหนังสือ ร้องทุกข์ ให้ จ.ปราจีนบุรี นาง สุภาภรณ์ ทองเอม ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลบางยาง บอกว่าพอใจในระดับหนึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ชลประทาน จะลงพื้นที่ ภายใน 3 วัน นางสุภาภรณ์กล่าว
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี