In News

AOTคาดผู้โดยสารช่วงปีใหม่กว่า2ล้านคน ขบ.ขอรถบรรทุกงดวิ่ง29ธ.ค.65-4ม.ค.66



กรุงเทพฯ-บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 คาดมีผู้โดยสารกว่า 2 ล้านคนใช้บริการสนามบินทั้ง 6 แห่ง โดยยังคงเน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การอำนวยความสะดวกผู้โดยสารและการให้บริการมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ด้านกรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและการวิ่งรถเปล่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 4 มกราคม 2566

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 AOT ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนผ่านสนามบินทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 รวมทั้งได้ตระหนักถึงการกลับมาให้บริการในยุค New Normal ซึ่งในช่วงนี้ที่การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว และมีผู้โดยสารมาใช้บริการสนามบินเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรรมที่ AOT ได้พัฒนาขึ้นจะช่วยตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายสูงสุด AOT ขอแนะนำแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ซึ่งผู้โดยสารสามารถเช็กข้อมูลและสถานะเที่ยวบินแบบ Real-time พร้อมระบบแจ้งเตือนแบบอัจฉริยะเมื่อใกล้เวลาเดินทาง เช็กสถานะกระเป๋าเดินทาง จองที่จอดรถ จองรถแท็กซี่ ค้นหาข้อมูลรถสาธารณะ รวมถึงร้องเรียนและติชมการให้บริการ รวมถึงฟังก์ชันใหม่ล่าสุด Queue Times ช่วยวางแผนการเดินทางให้ง่ายขึ้น โดยผู้โดยสารสามารถเช็กความแออัดและระยะเวลาในพื้นที่เช็กอิน พื้นที่ตรวจค้น และพื้นที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้น นอกจากนี้ ในช่วงที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการสนามบินจำนวนมาก อาจทำให้ต้องรอคิวบริเวณเคาน์เตอร์ให้บริการต่างๆ เป็นเวลานาน จึงขอแนะนำให้ผู้โดยสารใช้เครื่อง Kiosk สำหรับเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งใช้งานง่ายและ AOT ได้ติดตั้งเครื่อง Kiosk กระจายอยู่ตามบริเวณต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสารพร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกการใช้งาน

การเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ AOT ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดพิธีปล่อยแถวปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงาน หรือศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัยในสนามบิน โดยมีผู้บริหาร และพนักงาน AOT รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมประจำศูนย์ฯ ตลอดเทศกาล โดย ทสภ.ได้มีการจัดตั้งศูนย์ Single Command Center ตามสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อบริหารจัดการเรื่องความแออัดของผู้โดยสารที่มาใช้บริการ ณ ทสภ. โดยเฉพาะในช่วงเวลา Peak Hour ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ทสภ.ปฏิบัติงานเวรตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมรถแท็กซี่ และรถสาธารณะมาให้บริการเพิ่มเติมหากมีความต้องการใช้บริการจำนวนมาก นอกจากนี้ ทสภ.ยังได้ยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 3 มกราคม 2566 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ - ส่งผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง และ ทภก.ได้จัดพื้นที่จอดรถยนต์ฟรี ณ อาคาร X-Terminal เริ่มจอดได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2566 และจัดพื้นที่ลานจอดรถหน้าอาคารสำนักงาน ทภก. เริ่มจอดได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 24.00 น. ของวันที่ 2 มกราคม 2566

สำหรับประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 4 มกราคม 2566 ณ สนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 2 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 171.28 เมื่อเทียบกับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 (29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565) แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 832.51 และผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.05 และมีเที่ยวบินประมาณ 12,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.01 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 5,340 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 260.53 และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 6,850 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.98 นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT ขอเน้นย้ำในหลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่อง ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องหรือเข้าไปในเขตหวงห้ามในสนามบินได้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีลักษณะที่ปิดสนิทและมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นบนอากาศยานรวมกันได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร ทั้งนี้ หากบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวฯ เกินกว่าที่กำหนด (100 มิลลิลิตร) แม้ว่าจะมีของเหลวอยู่เล็กน้อยต้องนำใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง และสำหรับการนำแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขึ้นเครื่องบินตามประกาศของ กพท.ระบุว่า แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดเล็กที่มีค่าความจุไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 Wh (Watt - Hour : Wh) หรือ 20,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดกลางที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 100 ถึง 160 Wh หรือมากกว่า 20,000 ถึง 32,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดใหญ่ที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAh ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินและโหลดใต้ท้องเครื่องบิน นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้า Wh หรือระบุขนาดบรรจุของลิเธียม (Lithium Content : LC) หรือระบุไม่ชัดเจนไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน หรือโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้

นายนิตินัย กล่าวในตอนท้ายว่า สนามบินของ AOT ได้จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้แก่ กิจกรรมสวัสดีปีใหม่ต้อนรับผู้โดยสาร ซุ้มถ่ายภาพ และติดตั้งต้นคริสต์มาสพร้อมประดับตกแต่งอาคารผู้โดยสารให้มีบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 อาจมีผู้มาใช้บริการสนามบินของ AOT จำนวนมาก จึงขอความกรุณาผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายังสนามบินล่วงหน้า 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเที่ยวบินและการให้บริการของ AOT ได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและการวิ่งรถเปล่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 4 มกราคม 2566
 
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เนื่องด้วยในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณยานพาหนะที่ใช้บนท้องถนนมีความคับคั่งและมีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 4 มกราคม 2566 กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนด้วยการหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้า และงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) ในช่วงวันดังกล่าว เพื่อลดปัญหาการจราจร ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้รถแนะนำให้ผู้ประกอบการขนส่งดูแลกวดขันผู้ขับรถให้ปฏิบัติ ดังนี้

1. กำชับให้ผู้ขับรถขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ให้ผู้ขับรถพักผ่อนอย่างเพียงพอ
2. ตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถบรรทุก รถลากจูง รถพ่วง ก่อนใช้งานทุกครั้ง
3. ผู้ขับรถบรรทุกต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเป็นศูนย์
4. ผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ในรถของตนเองให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT-GPS แจ้งเตือนผู้ขับรถเมื่อพบว่า มีการใช้ความเร็วเกินกำหนด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง และให้เดินรถเฉพาะช่องเดินรถซ้ายสุดเท่านั้น 

ขบ. ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทาง รถบรรทุกส่วนบุคคล รวมถึงองค์กรด้านการขนส่งสินค้า 30 แห่ง ประกอบด้วย สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง ชลบุรี สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก สมาคมผู้ประกอบการรถเครน สมาคมโลจิสติกส์ และขนส่งภาคใต้ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งภาคตะวันออก ชมรมขนส่งสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก สมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกน้ำมันแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการขนส่งทั่วไทย สมาคมขนส่งสินค้าจังหวัดตาก ชมรมรถบรรทุกจังหวัดลำปาง สมาคมผู้ประกอบการขนส่งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม สมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิต สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย สมาคมโลจิสติกส์และขนส่งไทย สมาคมการค้าโลจิสติกส์ไทยแห่งอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง สหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ สมาคมตัวแทนออกของรับอนุญาตไทย และผู้ประกอบการขนส่ง ทั้งนี้ ขบ. ขอขอบคุณหน่วยงาน สมาคม ชมรมต่าง ๆ ในความร่วมมือนี้ โดยเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และส่งมอบถนนที่ปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่นี้