In News
พ่อเมืองเพชรบูรณ์สั่งเอาผิดหนุ่มรับเหมา สังเวยโควิด-19รายแรกดื้อไม่ยอมกักตัว
เพชรบูรณ์-นิติกรชำนาญการพิเศษสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหนุ่มรับเหมาก่อสร้างที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการกลับมาเยี่ยมญาติที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่กักตัว แถมยังมาตั้งวงดื่มสุราอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 นายกฤษณ์ คงเมือง ผวจ.เพชรบูรณ์ ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังได้รับรายงานเหตุจึงได้มอบหมายให้นายพชร มาเทียน นิติกรชำนาญการพิเศษสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งความดำเนินคดีกับนายอรรถพล หลาบคำ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 3 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหากรณีเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงได้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดฯในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ เกี่ยวกับมาตรการการควบคุมการแพร่เชื้อของโรคติดต่ออันตรายและกำหนดมาตรการในการป้องกันและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVIC 19) ซึ่งออกตาม พ.รก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ พ.รบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2548 ซึ่งมีโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิด กล่าวคือ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 22.00 น.ที่ผ่านมา นายอรรถพลฯ ผู้ต้องหา ได้เดินทางกลับมาจากพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งเป็นพื้นที่ 1 ใน 4 จังหวัด คือ (กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และ ปทุมธานี) ตามคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ 124/2564 และคำสั่งที่ 191/2564 เรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายและกำหนดมาตรการในการป้องกันและการแพร่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVIC 19) แล้วผู้ต้องหาไม่มารายงานตัวกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ตามคำสั่งของจังหวัดเพชรบูรณ์ดังกล่าว
ทันทีที่เดินทางมาถึงภูมิลำเนาที่พักอาศัยและไม่กักตัว ณ เคหะสถานหรือที่พักของบุคคลนั้น จนกว่าจะพ้นกำหนดเวลา 14 วัน ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ต้องหาและกลุ่มเพื่อนๆได้ตั้งวงดื่มสุรากัน จนกระทั่งเวลา 14.00 น.ได้มีทีมสอบสวนปฏิบัติการควบคุมโรคของตำบลนางั่ว ตรวจสอบพบว่านายอรรถพลฯผู้ต้องหา ไม่มีหนังสือขอนุญาตเดินทางตามมาตรการควบคุมโรคแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำของนายอรรถพลฯ ผู้ต้องหาเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น นายพชร มาเทียน นิติกรชำนาญการพิเศษสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.ท่าพล เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอรรถพล หลาบคำ ผู้ต้องหาตามคดีอาญาที่ 22/2564 หลังได้รับแจ้งจึงสั่งการให้ ร.ต.อ.กรเอก โภชนะสมบัติ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าพล รับเรื่องเพื่อดำเนินคดีต่อไป
นายพชร เทียนมา นิติกรฯ กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้มีคำสั่ง และประกาศเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรค การสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆรวมถึงคุมเข้มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่สีแดง หากเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์จะต้องรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน อสม. หรือศูนย์คัดกรองโควิดในพื้นที่ พร้อมทั้งกรอกแบบคำถามสุขภาพในแบบฟอร์ม ต.8 บร.ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด และจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่กลับมีผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อ คือ นายอรรถพล หลาบคำ ชาย อายุ 29 ปี ชาว ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศ สบค. แต่ไม่ได้รายงานตัว ไม่มีการตรวจหาเชื้อ อีกทั้งยังไม่กักตัว แถมยังไปตั้งวงดื่มแอลกอฮอล์กับบุคคลอื่นอีกด้วย
จากข้อมูลไทม์ไลน์พบว่าชายคนดังกล่าว เดินทางมาจากที่พักจังหวัดสมุทรปราการโดยสารด้วยรถแบริ่งมาลงที่สถานีจตุจักร จ้างรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งที่หมอชิตใหม่ เวลา 13.30 น.- 16.00 น.นั่งรถเพชรประเสริฐ กรุงเทพ-ภูเรือ เวลา 16.00 น. มาลงที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ต.นางั่ว เวลา 22.00 น.เพื่อมาเยี่ยมพ่อกับแม่และญาติๆ โดยมีเพื่อนมารอรับไปที่หมู่ 8 บ้านเพื่อนเพื่อดื่มสุรา พอถึงเวลา 24.00 น.จึงได้กลับบ้าน และวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 พักอยู่ที่บ้านได้มีเพื่อนจำนวน 2-3 คน มาร่วมพูดคุยด้วยตั้งแต่เวลา 09.00 น.จนถึงเวลาบ่ายๆ ต่อมาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 พักอยู่ที่บ้านมีเพื่อนมาร่วมพูดคุยด้วยพร้อมตั้งวงดื่มสุรากันตั้งแต่เวลา 09.30 น.จนถึงเวลา 14.00 น.ทีมสอบสวนไปถึงพบเพื่อน 6 คน รวมพ่อกับแม่เป็น 8 คน แต่พ่อกับแม่ออกไปทำนาตั้งแต่เช้าไม่ได้อยู่ร่วมวงด้วย
จากนั้นทางทีมสอบสวนปฏิบัติการควบคุมโรคจึงได้นำตัวนายอรรถพล หลาบคำ ผู้ต้องหาไปทำการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์อย่างละเอียด (ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นลบ) จนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 จึงให้กลับบ้านได้ พร้อมเฝ้าระวัง สังเกตอาการ จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งทำให้ผู้อื่นต้องสุ่มเสี่ยงและได้รับผลกระทบทั้งการดำรงชีวิตและด้านเศรษฐกิจอีกด้วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าพล ได้ออกหมายเรียกให้นายอรรถพล มารับทราบข้อกล้าวหาแล้ว ข่าวคืบหน้าทีมข่าวเฉพาะกิจจะนำมาเสนอให้ทราบต่อไป
ศุภเดช คำพุฒ / สมชาย คำพุฒ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์