In News
วันเด็กปีนี้นายกฯเปิดทำเนียบต้อนรับเด็ก วธ.เปิด9จุดเช็คอิน/พม.จัด10-14ม.ค.นี้
กรุงเทพฯ-นายกรัฐมนตรีเตรียมเปิดทำเนียบรัฐบาล จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ไฮไลท์ให้เด็กเข้าชมห้องทำงานและนั่งเก้าอี้นายกฯ รวมทั้งร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์แรงบันดาลใจมากมายตลอดงาน/พม. จัดงานสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติ 2566 ภายใต้แนวคิด “อนาคตเด็ก อนาคตประเทศไทย” 10 - 14 ม.ค. นี้/ต้อนรับวันเด็กแห่งชาติ วธ.เปิด 9 จุด Check in ท่องกิจกรรมใน 9 แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมทั่วประเทศ 14 มกราคม 2566 เปิดนิทรรศการรถพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ที่ทำเนียบ ร่วมจัดงาน “เด็กดีวิถีไทย” ที่กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์และหอสมุดทุกแห่ง
วันนี้ (10 ม.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบคำขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” นั้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เตรียมจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 ระหว่างเวลา 08.00-15.00 น. ณ บริเวณทำเนียบรัฐบาล เพื่อส่งมอบความสุขให้กับเด็กและเยาวชนไทย โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีเปิดงานและร่วมกิจกรรมกับเด็กและเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรม โดยมีตัวแทนเด็กและเยาวชนกลุ่มต่าง ๆ เข้าพบ ประกอบด้วย เด็กที่เรียนดีที่มีความกตัญญู เด็กด้อยโอกาส เด็กพิการ เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ รวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และตึกภักดีบดินทร์
กิจกรรมที่จะจัดในปีนี้ภายใต้คำขวัญวันเด็กของนายกรัฐมนตรี และมีกิจกรรมส่งเสริม ความเป็นไทย ใจรักชาติ พลังอำนาจของเด็กไทย โดยเน้นกิจกรรมสร้างสรรค์ทั้งในรูปแบบของนิทรรศการ สถานการณ์จำลอง การแข่งขันกีฬา และเกมส์ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนไทยในทุกมิติเพื่อปลูกฝังให้รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี รักความเป็นไทย รักชาติ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนมีจิตสำนึกรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างกิจกรรม อาทิ
- ความเป็นไทย ได้แก่ กิจกรรมส่งเสริม Soft power ของไทยในด้านต่าง ๆ การแสดงวัฒนธรรมอาหาร 7 ลุ่มน้ำของไทย การเรียนการสอนประวัติศาสตร์ชาติไทย การส่งเสริมมารยาทไทย และนิทรรศการตามรอยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC เป็นต้น
- ใจรักชาติ มีกิจกรรมการแสดงเพื่อส่งเสริมความรักชาติผ่านบทเพลงโดยนักศึกษาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โรงเรียนประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ และมีการเสวนาบทบาทเยาวชนไทยในการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ ยังเปิดตึกภักดีบดินทร์สำหรับกิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ หนังสั้นบทเพลงเพื่อชาติและบัลลังก์ รถฉายภาพยนตร์เคลื่อนที่ด้วย
- พลังอำนาจของเด็กไทย นอกจาก soft power แล้ว ยังมีการแสดงเทคโนโลยีสมัยใหม่ เทคโนโลยีดิจิทัล การแข่งขันเกมส์ การแข่งขันหุ่นยนต์ การแข่งขันกีฬา E-sport เกมส์เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งยังมีการจัดแสดงไดโนเสาร์จำลอง หุ่นยนต์และนักบินอวกาศ รถไมโครคาร์ (รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่สุด) และรถคาร์ท กิจกรรมการแจกลูกฟุตบอล 7,000 ลูก อีกจุดเน้นคือการสร้างความตระหนักของเยาวชนในการรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ การลดภาวะโลกร้อน กิจกรรมเพื่อโลกสีเขียว ภายใต้แนวคิด "BCG Model” มีกิจกรรมให้เด็กนำขยะ ขวด กระป๋อง ที่สามารถขายได้มาแลกเป็นสิ่งของ และกิจกรรม “เด็กไทยยุคใหม่ ร่วมใจลดโลกร้อน Go Green Go Together” ด้วย
นอกจากนี้ ยังเปิดศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร จำลองห้องแถลงข่าวเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกฝึกทดลองอ่านข่าว พร้อมร่วมสนุกเล่นเกมส์และรับแจกของขวัญ/ของที่ระลึก อาหารและเครื่องดื่มอีกมากมาย จึงขอเชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลาน เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล ตามวัน และเวลาดังกล่าว
“อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัดทั่วประเทศในการส่งมอบความสุข รอยยิ้ม ความสนุกสนานให้แก่เด็กและเยาวชน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ขอให้ทุกคนควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าเมื่อต้องเข้าไปร่วมกิจกรรมรวมกลุ่มกันจำนวนมาก และหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เมื่อจับต้องสิ่งของหรือก่อนรับประทานอาหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย” นายอนุชาฯ กล่าว
พม. จัดงานสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติ 2566 ภายใต้แนวคิด “อนาคตเด็ก อนาคตประเทศไทย” 10 - 14 ม.ค. นี้
วันนี้ (10 ม.ค. 66) เวลา 09.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “อนาคตเด็ก อนาคตประเทศไทย” เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักรู้ถึงภัยออนไลน์และเรียนรู้ถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรมชุมชน รวมทั้งพัฒนาตนเองรอบด้านและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับวัยให้มีความพร้อมในศตวรรษที่ 21 โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ
นายอนุกูล กล่าวว่า ด้วยรัฐบาลมีมติเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507 กำหนดให้วันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญและความต้องการของเด็ก อีกทั้งเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักรู้ถึงความสำคัญของตน เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม และเตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
สำหรับปี 2566 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) เป็นหน่วยงานหลักของภาครัฐในการขับเคลื่อนงานด้านเด็ก ด้วยการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพเด็กให้มีความพร้อมในศตวรรษที่ 21 ได้กำหนดจัดงานสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “อนาคตเด็ก อนาคตประเทศไทย” ระหว่างวันที่ 10 - 14 มกราคม 2566 โดยวันที่ 10 - 11 และ 14 มกราคม 2566 ณ กระทรวง พม. วันที่ 12 มกราคม 2566 ณ ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม และวันที่ 13 มกราคม 2566 ณ ชุมชนกุฎีจีน เขตธนบุรี กทม. ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายรวมจำนวนทั้งสิ้น 500 คน อีกทั้ง 107 หน่วยงานทั่วประเทศ สังกัด ดย. จะร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติในพื้นที่ของแต่ละจังหวัดเช่นเดียวกัน
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” เป็นคำขวัญวันเด็ก ปีพุทธศักราช 2566 ซึ่งกระทรวง พม. โดย ดย. ได้จัดงานสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติ ด้วยรูปแบบใหม่ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยน คิดวิเคราะห์ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ซึ่งมีสภาเด็กและเยาวชนและส่วนภูมิภาคเข้ามาร่วมในการจัดงานนี้ รวมทั้งองค์กรเครือข่ายที่ทำงานด้านเด็กเข้ามาสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันชีวิตจริง และคุณภาพชีวิตที่ดีในโอกาสข้างหน้า ซึ่งมีความมุ่งหวังว่า เด็กที่เข้ามาเรียนรู้ในงานวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวง พม. มีกลไกการทำงานด้านเด็กและเยาวชนผ่านคณะกรรมการประสานงานและศูนย์ประสานงาน ซึ่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ที่อาจเกิดจากการใช้งานด้านโซเชียลมีเดียผ่านระบบออนไลน์ และอาจทำให้เกิดการล่อลวงต่างๆ ซึ่งเรามีกลไกทำงานในระดับพื้นที่ เป็นหน่วยเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง คือ บ้านพักเด็กและครอบครัวในทุกจังหวัด เป็นโครงข่ายการทำงานในภูมิภาคที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายเด็กในจังหวัดนั้นๆ ทั้งนี้ การคุ้มครองเด็ก กระทรวง พม. มีความพยายามที่จะเชื่อมโยงกับเด็กในมิติอื่นๆ ทั้งในระบบโรงเรียนและชุมชน เพื่อต้องการให้เด็กได้รู้เท่าทันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในโลกโซเชียลออนไลน์ที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตนเอง
นางจตุพร กล่าวว่า วันนี้ กระทรวง พม. โดย ดย. ได้จัดกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ 1) การเสวนา หัวข้อ “เด็กไทยยุคใหม่ ตระหนักภัยออนไลน์” โดยมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย โครงการฮัก ประเทศไทย และสภาเด็กและเยาวชน และ 2) บูธนิทรรศการ กิจกรรม เกม ประกอบการเรียนรู้ โดยภาคีเครือข่ายด้านเด็ก ได้แก่ ศูนย์ประสานงานขับเคลื่อนการส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์ (COPAT) สภาเด็กและเยาวชน 4 ภาค (จังหวัดเชียงใหม่ กาฬสินธุ์ ระยอง สงขลา) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ธนาคารออมสิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำหรับพรุ่งนี้ (11 ม.ค. 66) มีบริการตัดผม เพ้นท์เล็บ กิจกรรมแนะแนวช่องทางการศึกษาเฉพาะด้าน และการสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพสุจริต และกิจกรรมชมภาพยนตร์ Netflix ห้าเทพผู้พิทักษ์ Rise of the Guardians
ต้อนรับวันเด็กแห่งชาติ วธ.เปิด 9 จุด Check in ท่องกิจกรรมใน 9 แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมทั่วประเทศ 14 มกราคม 2566
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีวิสัยทัศน์ใหม่คือ วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยและปรับเปลี่ยนบทบาทสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ วัฒนธรรมทำดี ทำงาน ทำเงิน โดยภารกิจส่วนหนึ่งมุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ การศึกษา การสร้างสรรค์และการจัดการองค์ความรู้ทางวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และการสร้างสรรค์งานด้านศิลปวัฒนธรรมไปสู่เด็ก เยาวชนและประชาชน นำไปสู่การสืบสาน รักษาและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมของชาติอย่างยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน โดยการพัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัยและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ดังนั้น เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปี 2566 นี้ วธ. และหน่วยงานในสังกัด ได้ร่วมจัดงานกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 โดยร่วมกับภาครัฐ และเอกชน จัดกิจกรรม ดังนี้ 1. Check in ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยสำนักงานปลัด วธ. ร่วมกับทำเนียบรัฐบาล จัดแสดงนิทรรศการรถพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ นิทรรศการประวัติศาสตร์ โบราณคดีไทย พร้อมรูปจำลองโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ การฉายภาพยนตร์ โดยรถโรงหนังเฉลิมทัศน์ โรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ ขนาด 100 ที่นั่ง 2. Check in ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานปลัด วธ. ร่วมกับ ศธ. จัดงาน “เด็กดีวิถีไทย” มอบความสุข ปลุกความคิด เข้าใจชีวิตวิถีไทย เน้นส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชนได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง มีทักษะชีวิตที่ดีเป็นเด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทยที่ดี และทำประโยชน์เพื่อสังคม
3. Check in ที่เปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์และหอสมุดทั่วประเทศ โดยกรมศิลปากร เปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 42 แห่ง อุทยานประวัติศาสตร์ 10 แห่ง รวมไปถึงหอสมุดแห่งชาติ ส่วนกลางและภูมิภาค 11 แห่งทั่วประเทศโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 4. Check in ที่หออัครศิลปิน จังหวัดปทุมธานี โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดการแสดงศิลปวัฒนธรรม ชุดการแสดงถวายพระพร หุ่นกระบอกไทย จินตลีลา ดนตรีไทย ละครเวที ดนตรีร่วมสมัย สาธิตทางวัฒนธรรม และกิจกรรมทางวัฒนธรรมอีกมากมาย 5. Check in ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จัดกิจกรรม “เรียนรู้ดูหอศิลป์” สาธิตและสอนศิลปะผ่านเกม สาธิตและสอนทำหนังสือสามมิติสำหรับเด็ก การแสดงการเล่านิทานและทำอาหาร การแสดงศิลปะเรืองแสงและเงา ให้กับเด็กและเยาวชนที่มาร่วมงาน
6. Check in กับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรีร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลสนามชัย ออกบูธเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมด้านดนตรีนาฏศิลป์ จัดการแสดงดนตรีนาฏศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลท้ายสำเภา จัดการแสดงชุดแขกแดงเกี้ยวยำหยี และวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ ร่วมกับสำนักงานเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กิจกรรมการแสดงกลางแจ้ง การแสดงบนเวที แจกอาหาร เครื่องดื่มและแจกของขวัญ ของรางวัล 7. Check in ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมคุกกี้หลากวัฒนธรรม ให้นักมานุษยวิทยาน้อยได้ตกแต่งหน้าตาของคุกกี้ในรูปแบบต่าง ๆ กิจกรรมระบายสีหน้ากากตามความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมลงสีกระถางดินเผา เพื่อเรียนรู้เรื่องการลงสีของภาชนะดินเผา กิจกรรมนำชมพื้นที่การเรียนรู้ทางวัฒนธรรม 8. Check in ที่หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จัดฉายภาพยนตร์สำหรับเด็ก workshop ประดิษฐ์ของเล่น และสอยดาว และ 9. Check in กับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ไปจัดกิจกรรม และการแสดงละครหุ่นเชิดให้กับเด็กและเยาวชนได้ชม ณ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพ (จตุจักร) และ สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส เป็นต้น ผู้ปกครองหรือเด็กเยาวชนที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม โทร 1765