In News
สุดน่าวิตก'เด็กเกิดน้อยกระทบสังคมไทย' พม.จับมือTDRI เร่งหาทางออกก่อนวิกฤต
พม. จับมือ TDRI แถลงสถานการณ์ทางสังคม ประเด็น “วิกฤตเด็กเกิดน้อย ผลกระทบต่อสังคมไทย”
พม. จับมือ TDRI แถลงสถานการณ์ทางสังคม ประเด็น “วิกฤตเด็กเกิดน้อย ผลกระทบต่อสังคมไทย”
เมื่อ(11 ม.ค. 66)นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และ ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมแถลงสถานการณ์ทางสังคม ประเด็น “วิกฤตเด็กเกิดน้อย ผลกระทบต่อสังคมไทย” ณ ห้องประชาบดี ชั้น 19 A กระทรวง พม. สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ
นายอนุกูล กล่าวว่า สถานการณ์ทางสังคม ประเด็น “วิกฤตเด็กเกิดน้อย ผลกระทบต่อสังคมไทย” ถือเป็นประเด็นที่ท้าทายในปัจจุบัน เนื่องจากพบว่า ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุ โดยในปี 2565 มีเด็กเกิดใหม่เพียง 5.02 แสนคน ถือเป็นอัตราการเกิดที่ต่ำที่สุดในรอบ 71 ปี ซึ่งอัตราการเกิดที่ลดลงจะส่งผลต่อการขาดแคลนแรงงานในอนาคต รวมทั้งเกิดภาวะพึ่งพิง วัยแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี 2583 หากอัตราการเกิดยังคงลดต่ำลง สัดส่วนวัยเด็กจะมีเพียงร้อยละ 13.3 ในขณะที่วัยแรงงานลดลงเหลือร้อยละ 55.5 และสัดส่วนวัยสูงอายุสูงถึงร้อยละ 31.1 และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ประกอบกับปัจจัยทางเศรษฐกิจ ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปชะลอการมีบุตร ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 อาจเป็นตัวเร่งให้การเกิดน้อยและการลดลงของประชากรไทยเร็วขึ้น
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. ในฐานะหน่วยงานหลักของภาครัฐในการขับเคลื่อนงานพัฒนาสังคม โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human capital) ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ที่มุ่งเน้นพัฒนาคนทุกช่วงวัยให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพในทุกมิติ มีสมรรถนะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ และมีทักษะการใช้ชีวิต เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยได้เตรียมการออกแบบนโยบายการคุ้มครองทางสังคมด้านเด็ก ดังนี้ 1) ขยายความครอบคลุมของเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยมุ่งสู่ความถ้วนหน้า 2) มุ่งเน้นการลงทุนทางสังคม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้เต็มศักยภาพ โดยการส่งเสริมให้มีศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียนอย่างทั่วถึง 3) สร้างสังคมและสภาพแวดล้อมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ และ 4) เตรียมพร้อมรับมือกับอัตราการเกิด เพื่อสร้างสมดุลให้แก่จำนวนประชากรในแต่ละช่วงวัยให้มีความเหมาะสม
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า การแถลงสถานการณ์ทางสังคมในวันนี้ เป็นการสะท้อนการวิจัยถึงอัตราการเกิดที่ต่ำลงอย่างน่าวิตก และต้องนำมาสื่อสารต่อสาธารณะ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ร่วมกัน ซึ่งกระทรวง พม. จะต้องเร่งขับเคลื่อนงานในการสร้างสังคมที่เป็นมิตรกับเด็ก และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เนื่องจากจำนวนเด็กที่เกิดน้อยลงส่งผลต่อจำนวนแรงงานที่ลดลงด้วย ผนวกกับการเข้าสู่สังคมสูงวัย อีกทั้งการสร้างโอกาสแก่ครอบครัวเด็ก เนื่องจากอัตราการเกิดส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเด็กเกิดใหม่ใน 1,000 วันแรก ทางการแพทย์ถือว่าเป็นมหัศจรรย์ 1,000 วัน นับเป็นวัยทองคำที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ โดยโครงการเงินอุดหนุนเด็กเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากจน เดือนละ 600 บาท ซึ่งกระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 7 มีเด็กเข้าร่วมโครงการประมาณ 2.4 ล้านคน ดังนั้น สังคมควรมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเป็นมิตรต่อเด็ก และเปิดโอกาสให้ครอบครัวมีความพร้อมในการดูแลเด็กเล็ก รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมอื่นๆ ให้เอื้อต่อการพัฒนาที่สมวัย