In News

นายกฯเปิดตรุษจีนราชบุรี ปีกระต่ายคึกคัก กระตุ้นท่องเที่ยวไทยชูวิถีชีวิต2แผ่นดิน



ราชบุรี-นายกฯ เปิดเทศกาลตรุษจีน จ.ราชบุรี “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” กระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ชูวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์สองแผ่นดิน เชิญชวนประชาชน-นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน อวยพรให้ชาวไทยเชื้อสายจีนสุขสมหวังร่ำรวยตลอดปี ก่อนหน้านี้นายกฯ ตรวจเยี่ยมการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชุน จ.ราชบุรี ชูวิถีท่องเที่ยวอิงประวัติศาสตร์ มุ่งส่งเสริมอัตลักษณ์และเสน่ห์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาในทุกมิติ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (19 มกราคม 2566) เวลา 17.30 น. ณ บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี Mr. Yang Xin อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมด้วย ผู้แทนสถานทูตจีน คณะผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน

นายกรัฐมนตรีชมวีดิทัศน์ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี ต่อด้วยการแสดงชุด “ตรุษจีนมหามงคลดินแดนเมืองมังกร” โดยแชมป์กายกรรมไทยสิงคโปร์มาเลเซีย จากนั้น รับฟังนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวต้อนรับ และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19-23 มกราคม 2566 โดยนำเสนอเอกลักษณ์และการสืบทอดวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนจากรุ่นสู่รุ่นในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนชาวจีนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีความหลากหลายและน่าสนใจ อันเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมส่งมอบความสุขให้แก่คนไทยเชื้อสายจีนเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมจีน เช่น การจำลองบรรยากาศแบบจีน ตกแต่งประดับโคมไฟรูปทรงต่าง ๆ กิจกรรมสาธิตการทำอาหารมงคล การเพนท์โอ่งมังกรจิ๋ว การทำเทียนหอมมงคล การเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมการดื่มชา กิจกรรมเสริมสิริมงคลและโหราศาสตร์แบบจีน พร้อมการแสดงทางวัฒนธรรม การเชิดสิงโต เชิดมังกร และการแสดงงิ้ว เป็นต้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานฯ แสดงความยินดีที่ได้เดินทางมาจังหวัดราชบุรี เมืองโอ่งมังกร และเป็นประธานในพิธีเปิดงานตรุษจีนราชบุรี “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” ซึ่งเทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญมากในวัฒนธรรมจีน เป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญที่ได้ระลึกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนในโอกาสเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 48 ปี ด้วยมิตรภาพและความผูกพันระหว่างประชาชน รวมถึงความร่วมมือของทั้งสองประเทศที่พร้อมขับเคลื่อนความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันสร้างความกินดีอยู่ดีและประโยชน์สุขให้ประชาชนของทั้งสองประเทศ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รัฐบาลส่งเสริมให้มีการจัดงานเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่ชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่และมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจหลายแห่งทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการจัดงานเทศกาลตรุษจีนที่ใหญ่ที่สุดนอกสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งการจัดงานตรุษจีนราชบุรี นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมจีนแล้ว ยังเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และในขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเดินทางเข้ามาโดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนั้น การนำเสนอเอกลักษณ์และการสืบทอดทางวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนจากรุ่นสู่รุ่นในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนชาวจีนของจังหวัดราชบุรี ที่มีความหลากหลายและมีความน่าสนใจ และด้วยศักยภาพของจังหวัดที่ในอดีตได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงชาวจีนที่ได้เดินทางเข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่ช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 จนเกิดเป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดราชบุรียังคงสืบทอดต่อกันมา และยังคงแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าของจังหวัดจึงช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจซึ่งมีความสำคัญ โดยรัฐบาลพยายามทำให้ดีที่สุดทั้งในระดับมหภาค จุลภาค เพื่อประโยชน์ของประชาชนซึ่งได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ มีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในแบบองค์รวม ตามงบประมาณและศักยภาพที่มีอยู่ นอกจากนี้ความร่วมมือของประชาชนคนไทยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน จะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ขอให้คนไทยมีความรัก ความสามัคคี ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยรอยยิ้มสยาม เพราะภาคการท่องเที่ยวและบริการจะเป็นส่วนช่วยสร้างรายได้และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศในช่วงเวลานี้ ขอให้ประคับประคองและร่วมมือกันพัฒนาไปตามลำดับเพื่อรักษาเสถียรภาพทางวินัยการเงินการคลังของประเทศให้ได้รับความเชื่อมั่น

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์แรงงาน ที่ปัญหาการว่างานเริ่มลดลง มีการจ้างงานมากขึ้น โดยได้กำชับผู้เกี่ยวข้องดูแลไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพื่อให้สามารถบริการนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งการพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อส่งต่อไปยังสถานประกอบการที่ต้องการ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีรายได้ที่สูงขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ ต้องเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย นอกจากนี้ต้องไม่ทอดทิ้งการดูแลกลุ่มเปราะบางซึ่งรัฐบาลมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีรายได้เพิ่มขึ้นและกระจายรายได้ให้ทั่วถึง ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีจะขับเคลื่อนงานให้เดินหน้าไปได้ด้วยดี

นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นว่าการจัดงานเทศกาลตรุษจีนของจังหวัดราชบุรีจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความประทับใจ และมีส่วนช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เกิดการใช้จ่ายและกระจายรายได้ในพื้นที่การจัดงานและชุมชนใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้น อันจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและใกล้เคียง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการส่งมอบความสุขในโอกาสขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมจีน พร้อมกล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมเที่ยวชมงาน ร่วมกันอุดหนุนสินค้า และร่วมส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วยผลิตภัณฑ์จากสินค้าชุมชน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดงานได้อย่างน่าประทับใจ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน และขอให้การจัดงานดำเนินไปด้วยความราบรื่น เกิดสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายทุกประการ พร้อมกล่าวอวยพรเนื่องในวันตรุษจีนให้ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนทุกท่านเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข โชคดี ก่อเกิดโชคลาภ และความเป็นสิริมงคลรับปีกระต่าย และกล่าวอวยพรเป็นภาษาจีนว่า “ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ” ซึ่งหมายถึง “สุขสมหวังและร่ำรวยตลอดปี”

จบแล้ว นายกรัฐมนตรีทําพิธีเปิดงานฯ ด้วยการตีกลองมหามงคลฤกษ์ ภายหลังพิธีเปิด นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมงานฯ โดยได้ทักทายพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ ผู้เข้าร่วมชมงานด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง พร้อมไหว้ฟ้าดิน ไหว้เทพเจ้า 9 พระองค์ ประกอบด้วย เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม หลื่อโจ้วเซียนซือ เจ้าพ่อใต้ฮงกง เจ้าพ่อหลักเมือง เจ้าพ่อเขางู (ปุนเถ้ากง) เจ้าพ่อเขาตก (แปะกง) เทพนาจา และพระภูมิใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือและได้อัญเชิญจากศาลเจ้าในพื้นที่มาให้กราบไหว้ขอพรในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อความเป็นสิริมงคล และก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปกับโอ่งมังกรยักษ์สัญลักษณ์ประจำจังหวัดราชบุรี พร้อมร่วมผัดหมี่มงคลในกระทะยักษ์แจกจ่ายประชาชนผู้ร่วมงานด้วย 

นายกฯ ตรวจเยี่ยมการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชุน จ.ราชบุรี ชูวิถีท่องเที่ยวอิงประวัติศาสตร์ มุ่งส่งเสริมอัตลักษณ์และเสน่ห์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาในทุกมิติ

ก่อนหน้านี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ลงตรวจเยี่ยมการพัฒนาเศรษฐกิจวัฒนธรรมชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีวัฒนธรรมชุมชนไท-ยวน ชุมชนคุณธรรม และกาดวิถีชุมชนคูบัว ณ วัดโขลงสุวรรณคีรี ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โดยมีกลุ่มสตรีแม่บ้านตำบลคูบัว กลุ่มอาสาสมัครแรงงาน และประชาชนในพื้นที่รอให้การต้อนรับ
 
นายกรัฐมนตรีสักการะพระพุทธศรีสุวรรณภูมิ และนมัสการพระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรวํโส เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรี พร้อมถวายผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมกาดวิถีชุมชนคูบัวตลาดโบราณเชิงวิถีชุมชน ในคอนเซ็ปต์ “เดินดินกินโตก อิ่มทั้งกาย ได้ทั้งบุญ อุดหนุนประชาชน” ซึ่งเป็นตลาดที่มีอาหารของกินของใช้ ของพื้นบ้านขายโดยชาวบ้านในท้องถิ่น เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์  เวลา 09.00 น.-20.00 น. และมีการแสดงพื้นเมืองให้ชมฟรี ช่วงเวลา 17.00 น.-19.00 น.
 
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชมการแสดงชุด “รำไท-ยวนย้ายแผ่นดิน” ที่มีความสวยงามและอ่อนช้อย บอกเล่าเรื่องราวภูมิหลังการเคลื่อนย้ายของชาวไท-ยวน จากโยนกมาตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดราชบุรีในสมัยรัชกาลที่ 1
 
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีชมสาธิตวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การทอผ้าจกที่มีลวดลายสีสันสวยงามซึ่งเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติพันธุ์ไท-ยวน สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ชมการทำกระเป๋าจากกาบกล้วยซึ่งเป็นนวัตกรรมรักษ์โลก ต่อยอดวัตถุดิบท้องถิ่นสู่งานแฟชั่นที่ทันสมัยและสวยงาม ชมผลิตภัณฑ์ผ้าไทยต่าง ๆ เช่น ผ้าขาวม้าทอมือ ผ้าซิ่นต๋า ที่มีการออกแบบลวดลายและพัฒนารูปแบบผ้าให้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ นับเป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายผ้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ให้มีความร่วมสมัย สามารถก้าวสู่ระดับสากลเพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน พร้อมชมการสาธิตทำโมบายดอกเข็มโดยใช้เศษด้ายที่เหลือจากการทอผ้ามาพันไม้และสลับสีเส้นด้ายเพื่อให้เป็นสีสรรสวยงาม การทำลวดลายขลุ่ยโดยการใช้ความร้อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ทดลองทำด้วย รวมทั้งเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่น ๆ เช่น หมวกกุยเล้ย งอบ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ลูกประคบ ผลิตภัณฑ์งานจักสาน งานฝีมือ ของที่ระลึกเป็นของขวัญของฝากและของตกแต่งบ้าน เป็นต้น
 
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ได้ช่วยกันพัฒนา สืบสาน รักษา ต่อยอด บูรณาการวิถีชีวิตท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน อิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางจิตใจ สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ความเชื่อ ของชาวไท-ยวนที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านงานศิลปหัตถกรรม เช่น การทอผ้าจกแบบโบราณ ขอให้มีการพัฒนารูปแบบและประยุกต์ลวดลายให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการตลาดสากล โดยยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ท้องถิ่นและความเป็นไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งคำนึงถึงการอนุรักษ์รักษาสิ่งแวดล้อมด้วย พร้อมขอให้ช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักเพื่อให้ทุกคนได้เห็นคุณค่าศิลปะ วัฒนธรรมงานหัตถกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นให้คงอยู่สืบไป รวมทั้งการปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ฟื้นฟูให้คนรุ่นใหม่เกิดความหวงแหนและความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมความเป็นไทยด้วย” นายอนุชาฯ กล่าว
 
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมโบราณสถานวัดโขลงสุวรรณคีรี (โบราณสถานหมายเลข 18) พุทธมหาสถานกลางเมืองราชบุรีในยุคประวัติศาสตร์สมัยทวารวดี อายุทางโบราณคดีราวพุทธศตวรรษที่ 12-16 ก่อนเดินทางไปเป็นประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี ณ บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ต่อไป