In News

นายกฯแจงการช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี ส่งสิ่งของพระราชทาน/พาคนไทยกลับ



กรุงเทพฯ-​นายกฯ แจง รัฐบาลติดตามช่วยเหลือเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกีต่อเนื่อง เตรียมอากาศยานนำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้ พร้อมรับคนไทยกลับประเทศ เร่งรัดโครงการบัตรสวัสดิการฯ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ทัน 1 มี.ค. นี้

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 13.30 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกีว่า รัฐบาลได้ติดตาม ประสานความร่วมมือ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ และกระทรวงมหาดไทยได้จัดทีมช่วยเหลือพร้อมสุนัขเข้าปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผลการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยดี ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากทีมช่วยเหลือของต่างประเทศในการเข้าช่วยเหลือค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในขณะนี้ยังคงมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี โดยทางรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมได้จัดเตรียมอากาศยานเครื่องบินโบอิ้ง 740 เพื่อนำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้ประเทศตุรกี ขณะเดียวกัน ขากลับจะรับประชาชนคนไทยที่อยู่อาศัยในตุรกีกลับมาประมาณ 23 คน รวมทั้งนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาด้วย 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้เร่งรัดให้นำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติและเริ่มโอนเงินให้กับประชาชนให้ทันเวลาในวันที่ 1 มีนาคมนี้ พร้อมเน้นย้ำว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ได้รับสิทธิจะต้องได้รับการคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบชื่อของตัวเองได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ว่าใครได้รับสิทธิหรือไม่ได้รับสิทธิ เพราะเป็นข้อมูลลับซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย

นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อกรณีมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชน โดยการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อ โอนเงิน ดูดเงินจากบัญชีธนาคารผ่านสื่อโซเชียล ข้อความ อีเมล ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สถิติ 10 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2565 มีคดีออนไลน์มากกว่า 800 คดีต่อวัน จึงจำเป็นต้องมีฎหมายเพื่อใช้บังคับ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการร่างกฎหมายโดยจะต้องเร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด พร้อมขอให้ประชาชนมีความระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อ หากได้รับการติดต่อให้เร่งตรวจสอบกับหน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้าง และขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายร่วมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้ระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างมากที่สุด เช่น กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต เป็นต้น 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ร่างกฎหมาย ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. .... เพื่อแก้ปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. ส่งข้อความเตือนประชาชนผ่านข้อความมือถือทุกค่าย เพื่อเตือนประชาชนได้โดยตรง หากมีเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จักอย่ารับสายเด็ดขาด นอกจากนี้ ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ยังได้กำหนดให้ผู้ที่เปิดบัญชีบัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีเจตนาใช้งานเพื่อตนเองหรือกิจการที่ตนเองเกี่ยวข้อง หรือที่เรียกว่า “บัญชีม้า” มีความผิดทุกประการต้องถูกดำเนินคดีและจะมีการลงโทษทางกฎหมาย