In News

'กิ้งก่ายักษ์'หลุด-ใครเป็นเจ้าของมารับได้



ปราจีนบุรี-แปลก!ชาวบ้านแจ้งกู้ภัยจับกิ้งก่ายักษ์ขนาดมหึมายาว50 เซนฯบ้านหนองหอย   ม.10 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี 

วันนี้ 17 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า    อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้ไปจับตัวเงินตัวทองเข้าบ้าน จึงไปยังบ้านหนองหอย   ม.10 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี    แต่พบว่าไม่ใช่ตัวเงินตัวทองตามที่รับแจ้ง

คาดว่าน่าจะเป็นอีกัวร์น่าร์   หรือกิ้งก่ายักษ์   มีขนาดความความยาว 50เซนติเมตร    น้ำหนักประมาณมาณ 2 กิโลกรัม ตัวสีเขียวท่าทางคุ้นเคย เหมือนถกเลี้ยงมาก่อนไม่ตื่นกลัว    จับได้ด้วยมือเปล่า

 นายสุชิน ขำถวิล อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู กล่าวว่า มาจับสัตว์เลื้อยคลานออกจากบ้านเรือนประชาชนทันที ไม่แน่ใจว่าเป็นสัตว์ชนิดใด หลังจากจับได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  

หากใครเป็นเจ้าของ ที่มันหลุดจากกกรงออกมา สามารถมารับคืนได้ที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูจุดระเบาะไผ่ได้ตลอดเวลา 

 

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทราบว่า เป็นตะกองหรือกิ้งก่ายักษ์    เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตะกองหรือกิ้งก่ายักษ์( Physignathus cocincinus )    ตะกองเป็นสัตว์เลื้อยคลานประเภทกิ้งก่าชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ขนาดของตะกองจะยาวประมาณ 90-120 เซนติเมตร ( ปลาย จมูกถึงโคนหาง 35-50 เซนติเมตร และหางยาว 55-70 เซนติเมตร) โดยตะกองเพศเมียจะมีขนาดเล็กกว่า ตะกองเพศผู้ราว 10-30 เซนติเมตร     และจะมีหัวป้อมกว่า สีของลำตัวก็เข้มกว่า สีของตะกองจะมีสีเขียวและสัตว์ชนิดนี้ สามารถที่จะเปลี่ยนสีของมันให้เข้มขึ้น และอ่อนลงตามสภาพแวดล้อมได้  

ตะกอง มีการกระจายทั่วไปในประเทศลาว, เวียดนาม,กัมพูชา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของประเทศไทย ตะกองชอบที่จะอาศัยหากิน อยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และมีสภาพป่าที่ค่อนข้างทึบ   เช่นบริเวณป่าดิบแล้ง   ริมลำห้วยที่มีน้ำไหล สัตว์ชนิดนี้เวลามันตกใจพบว่ามันจะวิ่ง 2 ขา    โดยหุบขาหน้าไว้แนบชิดลำตัว และโดยปกติเมื่อมีภัยมันจะกระโจนลงน้ำ และสามารถดำน้ำได้เป็นเวลานานๆ

สำหรับอาหารที่มันกินก็คือ แมลงชนิดต่างๆ เช่นกบ,เขียด,ปลาเล็กๆ,หนูตัวเล็กๆ และผลไม้บางชนิด ในที่กรงเลี้ยงพบว่าตะกองมีอายุถึง 30 ปี ตะกองจะมีฤดูกาลผสมพันธุ์ และวางไข่ในระหว่าง เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม และในหนึ่ง ครั้งตะกองเพศเมียจะวางไข่ประมาณ 10 ฟอง ตะกองจะวางไข่บริเวณพื้นดินที่มีลักษณะเป็นดินทรายและมันจะขุดหลุมลึกลงไปประมาณ 12-17 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 12-15 เซนติเมตร

ในปัจจุบันจำนวนประชากรของตะกองได้ลดลงจากในอดีตมาก เนื่องจากปัญหาการจับตะกองไปเป็นอาหาร ของชาวบ้านรอบๆป่า และ   ปัญหา การบุกรุกทำลายป่าอันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของตะกอง  

ซึ่งมีผลให้บ้านของเจ้ากิ้งก่ายักษ์ถูกลดขนาดให้เล็กลง และผืนป่าตะวันออกแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งพันธุกรรมที่สำคัญแหล่งหนึ่งของตะกอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ประกาศให้ตะกองเป็น”สัตว์ป่าคุ้มครอง”

มานิตย์  สนับบุญ/ปราจีนบุรี