In News

แนวโน้มอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ ในปี66พุ่งตัวสูงรัฐฯรุกสู่ศูนย์กลางภูมิภาค



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย แนวโน้มของอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ในปี 2566 มีการขยายตัวสูง รัฐบาลมุ่งส่งเสริมศักยภาพไทยสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาค

วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งยกระดับและส่งเสริมศักยภาพการจัดการคลังสินค้าไทยสู่มาตรฐานระดับสากล หลังแนวโน้มของอุตสาหกรรมระบบการจัดการคลังสินค้าภายในองค์กร หรือ อินทราโลจิสติกส์ (Intralogistics) ในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 10-15%

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากข้อมูลโดยสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทย การเติบโตของระบบการจัดการคลังสินค้าภายในองค์กร (อินทราโลจิสติกส์) ซึ่งในปี 2565 มีมูลค่าถึง 6,000-8,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2564 ประมาณ 5-8% พร้อมมองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปี 2566 ที่เริ่มฟื้นตัว และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีความคืบหน้าเพิ่มเติมจากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญเร่งด่วน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศมากขึ้น และเชื่อว่าจะส่งผลให้อุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ขยายตัวได้ดีถึง 10-15% เทียบเท่าก่อนสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 

นอกจากนี้ สมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทยยังเตรียมจัดงาน LogiMAT | Intelligent Warehouse 2023 ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2566 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อแสดงสินค้าชั้นนำที่เกี่ยวกับนวัตกรรมในการวางระบบคลังสินค้า และนำเสนอเทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้าในอนาคต โดยจะเป็นงานที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการ ผู้มีศักยภาพด้านการลงทุน และผู้มีส่วนตัดสินใจขับเคลื่อนองค์กร จากทั้งไทยและนานาชาติมากกว่า 100 แบรนด์/บริษัท สามารถดึงดูดนักลงทุนด้านโลจิสติกส์และผู้ที่สนใจได้มากกว่า 6 พันคน ซึ่งจะทำให้มีเงินสะพัดในงานรวมกว่า 1,000 ล้านบาท

“นายกรัฐมนตรียินดีที่อุตสาหกรรมคลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ อินทราโลจิสติกส์ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2566 ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเพื่อขับเคลื่อนพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์มาโดยตลอด พร้อมยินดีร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับการจัดการคลังสินค้าไทยสู่มาตรฐานระดับสากล เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการไทย รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต” นายอนุชาฯ กล่าว