In News
ชี้ไทยลดใช้ถุงหูหิ้วใน3ปีได้กว่า1แสนตัน รัฐสั่งบูรณาการทุกภาคส่วนทำต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีภาพรวมการลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วภายใน 3 ปี ทำได้กว่า 1 แสนตันเน้นการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ต่อเนื่อง ขอบคุณประชาชนทุกคนมีส่วนช่วยชาติ ช่วยโลก ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
วันนี้ (2 มีนาคม 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีกับผลสำเร็จของการลดใช้ถุงพลาสติกในประเทศได้กว่า 148,699 ตัน ภายในระยะเวลา 3 ปี หรือลดลง 43% ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินงานตามเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565) (Action Plan on Plastic Waste Management Phase I) พร้อมเน้นย้ำการบูรณาการความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่อเนื่อง เพิ่มแนวทางการจัดการขยะรูปแบบใหม่ ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลกำหนด Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ คือ 1. การลดและเลิกใช้พลาสติกเป้าหมายด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 2. การนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ ร้อยละ 100 ภายในปี 2570 ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำไปดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 พ.ศ. 2563 – 2565 ผ่านโครงการและกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ เช่น
- โครงการ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” (ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2561 – 31 ธันวาคม 2562) เพื่อประชาสัมพันธ์การลด เลิกใช้พลาสติก ส่งเสริมให้เกิดการนำพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟมบรรจุอาหารในพื้นที่ตลาดสดเทศบาลและเอกชน รวมถึงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศได้กว่า 3,414 ล้านใบ หรือประมาณ 9,824 ตัน
- กิจกรรมงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วแบบใช้ครั้งเดียว “Everyday Say No To Plastic Bags” (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 – ธันวาคม 2565) โดยร่วมมือกับเครือข่าย สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบใช้ครั้งเดียว รวมทั้งสิ้น 14,349.6 ล้านใบ หรือ 81,531 ตัน ซึ่งประชาชนกว่าร้อยละ 90 เห็นด้วยกับการรณรงค์ในเรื่องนี้
- การส่งเสริมสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดทำตลาดสดต้นแบบ มาตรการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ
- โครงการเปลี่ยนพลาสติกเป็นบุญ (เมื่อคุณหมุนเวียน) ซึ่งขยะพลาสติกที่รวบรวมได้จะถูกนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อใช้ประโยชน์ใหม่ และจะนำไปมอบให้กับมูลนิธิเพื่อรักษาและช่วยชีวิตสัตว์ทะเล หรือกลุ่มอาสาสมัคร ชุมชน วัด หรือโรงเรียน ที่ขาดแคลนอุปกรณ์ในการดำรงชีวิตหรือขาดแคลนทุนทรัพย์
โดยเมื่อแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 1 สิ้นสุดลง จึงได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบแล้วเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะยกระดับการจัดการขยะพลาสติก ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้สินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำ เพื่อนําทรัพยากรกลับคืนจากของเสียให้มากที่สุดในรูปแบบวัสดุรีไซเคิล และพลังงาน ให้เหลือขยะที่ต้องกำจัดให้น้อยที่สุด
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการขยะและการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า โดยเน้นย้ำการควบคุมตั้งแต่ต้นทางการผลิตไปจนถึงปลายทางเพื่อให้เกิดประโยชน์กลับคืนสูงสุดแก่สิ่งแวดล้อมและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน รวมทั้งผลักดันโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อความสมดุล ยั่งยืน พร้อมทั้งขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการช่วยชาติ ช่วยโลก ลดใช้พลาสติก รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” นายอนุชาฯ กล่าว