In News
นายกฯหนุนการจัดการกากอุตสาหกรรม ผ่านความร่วมมือทวิภาคีไทย-ญี่ปุ่น
กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ พร้อมสนับสนุนการจัดการกากอุตสาหกรรมผ่านความร่วมมือทวิภาคีไทย - ญี่ปุ่น เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (3 มีนาคม 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและชื่นชมความคืบหน้าด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมในประเทศไทย จากความร่วมมือทวิภาคีระหว่างหน่วยงานภาครัฐของไทยและญี่ปุ่น ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการหารือและให้คำปรึกษาด้านเทคนิคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการกากอุตสาหกรรมให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นพลังงานในแต่ละภูมิภาค ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ความร่วมมือทวิภาคีด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมในประเทศไทยเป็นผลสำเร็จที่ต่อยอดจากบันทึกความร่วมมือด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมของประเทศไทย และกระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น (Memorandum of Cooperation in the Field of Waste Management) นับตั้งแต่ปี 2559 โดยมีการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการจัดการของเสียอุตสาหกรรมผ่านโครงการความร่วมมือต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการรีไซเคิล การจัดการขี้เถ้า การจัดการพื้นที่ปนเปื้อนจากของเสียอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือเพิ่มเติมจากเดิมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม จึงได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ของประเทศไทย และสำนักฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและวัฏจักรของวัสดุ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น (Environmental Regeneration and Material Cycles Bureau, Ministry of the Environment of Japan) เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี (https://www.env.go.jp/en/headline/2602.html)
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ผ่านการประชุมหารือเพื่อให้คำปรึกษา เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการกากอุตสาหกรรมในประเทศไทย วิเคราะห์ข้อมูลความเป็นไปได้ในการนำกากอุตสาหกรรมมาประยุกต์ใช้เป็นพลังงานในแต่ละภูมิภาค รวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีจากการแปรรูปขยะให้เป็นพลังงานทดแทน (Waste to Energy) ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาแนวคิดนวัตกรรมที่เหมาะสมต่อการจัดการกากอุตสาหกรรมของประเทศไทย
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นย้ำจุดยืนของรัฐบาลไทยที่พร้อมส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในด้านที่มีศักยภาพร่วมกัน ซึ่งความร่วมมือของไทย - ญี่ปุ่น ด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมในประเทศไทย ถือเป็นอีกตัวอย่างสำคัญในการผลักดันและพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกันในภูมิภาค สอดคล้องกับแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียวและโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนเพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมของไทยให้ดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า และปลอดภัยกับชุมชน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนประเทศได้อย่างสมดุล มั่นคง และยั่งยืน” นายอนุชาฯ กล่าว