In News

ขยายเวลาอายุมาตรการหนุนให้สินเชื่อ แก่ผู้ประกอบธุรกิจSMEsออกไปอีก1ปี



กรุงเทพฯ-​ครม. ขยายระยะเวลาอายุมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มSMEsวงเงิน 250,000 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี วันนี้ ( 7 มีนาคม  2566) ขยายระยะเวลาอายุมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ วงเงิน  250,000 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี  เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือแก่ภาคธุรกิจภายใต้ (1) มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูเพื่อให้ความช่วยเหลือและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังประกอบธุรกิจและมีศักยภาพในการแข่งขัน แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูธุรกิจ และ (2) มาตรการสินเชื่อเพื่อการปรับตัว เพื่อเป็นแหล่งทุนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ที่มีความพร้อมและต้องการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อรองรับบริบทใหม่และการเปิดประเทศหลังสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด -19 

คณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบรับโอนวงเงินคงเหลือของมาตรการรับโอนทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ (วงเงิน 100,000 ล้านบาท) หลังสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 9 เมษายน 2566 นี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ  จึงไม่มีความจำเป็นต้องนำหลักประกันมาเข้าโครงการ ฯ โดยคาดว่าจะมีวงเงินคงเหลือสูงสุดจำนวน 29,000 ล้านบาท มารวมไว้เป็นวงเงินภายใต้มาตรการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ จากที่คาดว่าจะคงเหลือ  32,500 ล้านบาท มีวงเงินคงเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 61,500   ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้มาตรการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ ยืดหยุ่น ช่วยฟื้นตัวของภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุน หรือที่มีหนี้เดิมค้างชำระ อยู่ในการปรับโครงสร้างหนี้ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน