In News

กทม.แก้ความเดือดร้อนเร่งด่วนจตุจักร



กรุงเทพฯ-รองผู้ว่ากทม. แก้ไขความเดือดร้อนเร่งด่วนของชุมชนย่านจตุจักร 

(23 มี.ค.64) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาของชาวชุมชนในพื้นที่เขตจตุจักรที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการให้กรุงเทพมหานครดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เกี่ยวกับการสร้างท่าเรือ และการดำเนินงานวิสาหกิจชุมชน  ณ ริมคลองลาดพร้าว บริเวณซอยรัชดา 36 แยก 9-3-2 เขตจตุจักร

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกิจกรรม “ผู้ว่าฯ พบประชาชน” เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้รับทราบความเดือนร้อนของประชาชนในชุมชนพื้นที่เขตจตุจักร และต้องการให้กรุงเทพมหานครดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ในวันนี้จึงเป็นการลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยในส่วนของการก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามคลองลาดพร้าวซึ่งเดิมมีแต่สะพานที่ใช้สัญจรทางรถยนต์เท่านั้นไม่มีฟุตบาทให้คนเดินข้าม จะทำเป็นสะพานเหล็กจากฝั่งซอยลาดพร้าววังหิน 79  ข้ามคลองมาฝั่งซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3-2 สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน โดยอาจขอการสนับสนุนจากภาคเอกชนในพื้นที่หรือใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานครในการก่อสร้าง ทั้งนี้ หากสะพานแห่งนี้แล้วเสร็จจะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนและรองรับการเชื่อมต่อท่าเรือคลองลาดพร้าวในอนาคตที่สำนักการจราจรและขนส่งกำลังจะดำเนินการปรับปรุงท่าเรือเพื่อรองรับการเดินเรือสัญจรในคลองลาดพร้าวจำนวน 17 ท่าเรือ ระยะทาง 24.12 กม.ในอนาคตอีกด้วย  

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า  นอกจากนี้ยังเตรียมดำเนินการในเรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวริมคลองลาดพร้าวในบริเวณดังกล่าว โดยจะจัดสร้างเป็นสวนสาธารณะ ขนาดพื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน 87 วา ยาวประมาณ 300 เมตร เลียบคลองลาดพร้าว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสะพานที่ข้ามไปวัดสิริกมลาวาส(วัดใหม่เสนานิคม) เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ของประชาชนในชุมชนพื้นที่เขตจตุจักร โดยจะใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานครในการก่อสร้างประมาณ 10-20 ล้านบาท 

สำหรับการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนของชุมชนในพื้นที่เขตจตุจักรที่ขึ้นทะเบียนแล้วนั้น สำนักพัฒนาสังคม และฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เขตจตุจักร จะมีการนำสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีชื่อเสียง เช่น กระเป๋าจักสานจากกลุ่มชุมชนสยามเวนิสจันทรเกษม นำมาส่งเสริมด้านการตลาด โดยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าในนิทรรศการ โครงการ และช่องทางต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครต่อไป