In News

พายุฤดูร้อนถล่ม'เมืองเพ็ญ'เสียหายยับ!! ต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านนอภ.



อุดรธานี-เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มในเขตเทศบาลตำบลเพ็ญ เสียหายหนักทั้งศูนย์ราชการ บ้านเรือน ร้านค้า โรงเรียน เสียหายยับ ขณะที่บ้านนายอำเภอก็โดนด้วย ต้นมะกอกยักษ์ล้มทับบ้าน จนนายอำเภอรับว่า รู้ถึงความรู้สึกชาวบ้านที่หวาดกลัว ที่ต้องมาประสบเหตุวาตภัย ขณะที่สั่งการแร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมด    

วันที่ 29 มีนาคม 2564 เวลา11.นน น. ผุ้สื่อข่าว จ.อุดรธานี  ได้ลงพื้นที่เทศบาลตำบลเพ็ญ อ.เพ็ญ สำรวจความเสียหายจากเหตุพายุฤดูร้อน พัดถล่มในพื้นที่เมื่อช่วงเวลา 18.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเกิดพายุหมุนและลมกระโชกแรง พัดหลังคาบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเพ็ญ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งลมพายุพัดถล่มสร้างความเสียหายแก่สถานที่ราชการ ที่ทำการปกครอง อ.เพ็ญ สำนักงานขนส่งสาขาเพ็ญ รั้วศูนย์ราชการพังเสียหาย ร้านค้าริมถนนสายอำเภอเพ็ญ-บ้านเหล่า ถูกพายุพัดพังเสียหายกว่า 10 ร้าน ศูนย์มูลนิธิสว่างเมธาเพ็ญ พังลงมาทับรถยนต์เสียหาย และที่ซุ้มประตูสี่แยกศูนย์ราชการ พังลงมาขวางถนน ทำให้ไฟฟ้าดับในเขตเทศบาลตำบลเพ็ญทั้งเมือง รวมทั้งต้นมะกอกยักษ์อายุกว่า 20 ปี ถูกแรงลมพาบุพัดโค่นลงมาทับบ้านของ นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ พังเสียหายเกือบทั้งหลัง 

โดยที่เสียหายมากที่สุด คือ ที่โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุกูล ที่ถูกลมพายุพัดเสียหายอย่างหนัก อาคารเรียน อาคารหอประชุม บ้านพักครู พังเสียหายยับ หลังคาบ้านพักครูที่อยู่ด้านหลัง ถูกแรงลงวหอบมาตกที่ด้านหน้าโรงเรียน ขณะที่มีต้นไม้ใหญ่หลายต้นหักโค่นลงมา เต้นท์ที่ใช้ลงคะแนนเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเพ็ญ หน่วยเลือกตั้งในโรงเรียน ขณะมีการนับคะแนน ถูกแรงลมพัดทำให้เจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหนีหลบพายุ โดยวันนี้ทางโรงเรียนประกาศหยุดเรียนยังไม่มีกำหนดเปิด ขณะที่กำลังทหารจาก ร.13 ได้เข้ามาช่วยเหลือเก็บกวาดซากวัสดุต่าง ๆ เศษสังกะสีหลังคา ที่ปลิวกระจายทั่วโรงเรียน     

นายศุภวัฒน์ ธวัขเมธี ครูประจำชั้น ป.1 ทำหน้าที่ครูเวร เปิดเผยว่า วานนี้เวลา 18.30 น.มีลมพัดมาแต่ยังไม่แรงมากในช่วงแรก โดยลมมาจากทางเทศบาลตำบลเพ็ญก่อน แล้วก็พัดเข้ากับป้ายทางเข้าอำเภอล้มลงถนนเสียงดัง ตนวิ่งไปดูนึกว่ารถชนกัน แล้วตนก็รีบวิ่งกลับเข้ามาในอาคาร ตนก็เห็นลมพายุมันก็พัดหมุนเป็นเกลียวอยู่บริเวณด้านหลังอาคารหอศิลป์ แล้วก็หมุนมาบ้านพัก โรงอาหาร และอาคารโรงเรียน แล้วพายุก็ตีหมุนกลับอยู่ภายในโรงเรียนมาทางสนามฟุตบอล ขณะนั้นตนก็ได้แต่ยืนดู เพราะว่ากลัวมากทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยที่จะกลัวมากขนาดนี้ด้วย ต้นไม้ก็ล้มจากพายุ แล้วตนก็เห็นพวกสังกะสีลอยเต็มไปหมด แล้วก็พัดมาใส่ตรงตลาด และยกหลังคาสว่างเมธาเพ็ญหลุดออกไปทับรถ ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่นั่งภาวนาให้ตนเองไม่เป็นไร โดยตนนั้นหลบอยู่ใต้โต๊ะภายในอาคารอำนวยการ 

“ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้มาก่อน ซึ่งคนที่เคยเป็นครูและเกษียณไปแล้วบอกกับผมว่า เป็นครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้ โดยบริเวณแถวตลาดก็มีโดนแรงลมจากพายุพัดพังเสียหายเหมือนกัน ซึ่งสักพักหนึ่งลมก็หยุดหายไป โดยลมพัดอยู่ประมาณเกือบชั่วโมง ไฟฟ้าก็ดับ ซึ่งตอนนี้ไฟฟ้าก็ยังไม่มา ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้ไปขอทาง กฟภ.ว่า ยังไม่ให้ปล่อยกระแสไฟฟ้ามาภายในโรงเรียน เพราะว่าในห้องเรียนยังมาน้ำขัง อยู่กลัวว่าจะเกิดอันตราย แต่ตอนนี้นักเรียนสอบเสร็จแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ปิดเทอมมา วันนี้จึงให้นักเรียนหยุดไม่มีการเรียนการสอน แต่ว่าครูต้องมาทำคะแนนสอบ แต่ผมยังไม่มีจิตใจในการทำคะแนนสอบ ซึ่งก็คงจะต้องรอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้อำนวยการเขตการศึกษาเข้ามาตรวจความเสียหายอีกครั้ง” 

ต่อมา นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ ได้ไปตรวจสอบบ้านพักนายอำเภอแบบ 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ในกองร้อย อส.เพ็ญ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ อส.ได้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่พังเสียหายออกหมดแล้ว พร้อมทำการตัดต้นมะกอกยักษ์ที่ล้มทับตัวบ้านออก แต่หลังคาบ้านทะลุจากการที่ต้นไม้ล้มทับ ภายในบ้านถูกน้ำฝน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มีถูกน้ำบางส่วน  

นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ตนก็ได้ตรวจสอบและฟังการแจ้งเตือนของกรมอุตินิยมวิทยา และก็มีการแจ้งเตือนชาวบ้าน และเป็นวันเลือกตั้ง  ตอนเกิดเหตุการณ์ตนอยู่ในบ้าน ส่วนภรรยาออกไปรับกับข้าว พอกลับเข้ามามีลมพายุพัดแรง หมุนรอบบ้าน เสียงต้นไม้ล้มทับหลังคาที่ต่อออกมาพังเสียหาย ไฟฟ้าดับ น้ำฝนก็ไหลเข้าในบ้าน ประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ ก็พบว่ามีความเสียหายไม่ใช่แค่บ้านพักนายอำเภอ ก็ยังมีส่วนราชการ ที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ โรงเรียนอนุบาลเพ็ญ สำนักงานกู้ภัยสว่างเมธาธรรม อ.เพ็ญ ร้านค้า และ บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เร่งทำการสำรวจ 

“ผมเป็นห่วงประชาชนในช่วงพายุฤดูร้อน เวลาไปเยี่ยมประชาชนพบคุณตาคุณยายสอบถามก็รู้ว่าอยู่คนเดียว ส่วนถามว่ากลัวไหม ผมบอกได้ว่ากลัว ซึ่งความกลัวขณะนั้นมันขนาดไหน จนมาเจอกับตัวเอง พยายามครองสติถึงกับนอนไม่หลับ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ที่เราต้องอยู่ในสภาวะไม่มีไฟฟ้าใช้ มีความหวาดกลัว ในช่วงแรก ๆ เพราะยังไม่มีใครเข้ามาช่วยเรา เป็นสถานการณ์ที่ต้องเจอเหมือนกันทั้งหมด หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์นี้แล้วตนยิ่งมีความเป็นห่วงประชาชนมากขึ้น ทำให้ผมร้ถึงความรู้สึกของชาวบ้านที่บ้านถูกพายุพัดพัง” 

นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ บอกอีกว่า ในการช่วยเหลือเบื้องต้น ตนสั่งการให้ท้องถิ่นทุกแห่ง เร่งสำรวจให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เป็นห่วงเรื่องชีวิตก่อน และทรัพย์สินพร้อมเร่งฟื้นฟูสถานที่ ต้นไม้ที่ล้ม ไฟฟ้าต่าง ๆ ต้องกู้ขึ้นมาก่อน และในส่วนความเสียหาย ต้องสำรวจและให้การช่วยเหลือเงินตามอำนาจหน้าที่ ถ้าไม่พอต้องใช้ระเบียบกระทรวงการคลังต้องรีบประชุมแก้ไขด่วน 

ขณะที่มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า พายุฤดูร้อนยังพัดถล่มบ้านเรือนประชาสชนเสียหายในอีกหลายอำเภอ คือที่ อ.บ้านผือ อ.บ้านดุง อ.ศรีธาตุ อ.ไชยวาน และ อ.หนองแสง มีบ้านเรือนประชาชนถูกพายุพัดเสียหายรวม 151 หลังคาเรือน ที่เสียหายหนักสุด คือ ที่อำเภอเพ็ญ

กฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี