Biz news

เจโทร กรุงเทพฯจัดเจรจาธุรกิจอาหาร นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเฉพาะในตจว.



กรุงเทพฯ-วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ มุ่งส่งเสริมกิจกรรมในระดับภูมิภาค เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นในต่างจังหวัดและในประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากการจัดงานแสดงสินค้าและงานเจรจาธุรกิจสำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นร้านอาหารและร้านค้าปลีกในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว ยังจัดแคมเปญใหญ่ “[ Made in JAPAN on tour ] วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ยกญี่ปุ่นมาไว้ใกล้บ้าน” ในทั้ง 2 พื้นที่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากร้านอาหารญี่ปุ่นในพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อันจะเชื่อมโยงไปถึงการนำเข้าและการจำหน่ายสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นต่อไป

ครั้งแรกของการจัดงานเจรจาธุรกิจในส่วนภูมิภาค

ในปีนี้ เจโทร เร่งดำเนินนโยบายเพื่อขยายตลาดและช่องทางการจำหน่ายสินค้าอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สู่พื้นที่ส่วนภูมิภาคและประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่

โดยเริ่มจากงาน THAIFEX 2023เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจโทรได้เชิญ Buyer หลายร้อยบริษัทจากทั่วประเทศ รวมไปถึงจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ มาเยี่ยมชมสินค้าภายในJAPAN PAVILION ซึ่งช่วยนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและเมื่อวันที่ 7 – 8 กันยายนที่ผ่านมา เจโทรได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในงาน BEYOND FOOD EXPO 2023 ที่จังหวัดขอนแก่น จัดโดยศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) ร่วมกับหอการค้าจังหวัดขอนแก่นในงานประกอบด้วยผู้แสดงสินค้าจากประเทศไทย ลาว และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการจัดบูธแสดงสินค้าอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่น JAPAN PAVILIONในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก ผู้ประกอบการที่มาแสดงสินค้าในJAPAN PAVILIONเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่น จากกรุงเทพฯ รวม 17 บริษัท โดยมีสินค้าหลากหลายทั้งเนื้อวากิว อาหารทะเล ข้าว ชา เหล้าบ๊วย เส้นอบแห้ง แกงกะหรี่ ฯลฯ โดยได้รับความสนใจจาก Buyer ในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึง Buyer จากประเทศลาวเข้าเยี่ยมชม อีกทั้งยังได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากผู้ประกอบการที่ร่วมจัดแสดงสินค้า เช่น“รู้สึกดีใจมากที่มีการจัดงานแสดงสินค้าในลักษณะนี้ เพราะไม่ค่อยมีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคในต่างจังหวัด” “ถึงแม้ว่าผู้บริโภคจะเคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นมาแล้ว แต่อาจจะมีน้อยคนที่รู้จักวิธีการรับประทานแบบต้นตำหรับแท้ จึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสมาแนะนำข้อมูลในงานนี้” “รู้สึกดีใจที่ได้ฟังความคิดเห็นหลากหลายจากทั้ง Buyer ในขอนแก่น จังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศลาว ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก”

ต่อมาในวันที่ 16-17 พฤศจิกายนเจโทรได้จัดงานเจรจาธุรกิจในต่างจังหวัดขึ้นอีกครั้ง ชื่องาน “JAPAN Food Exhibition & Business Matching in Chiang Mai” ซึ่งถือเป็นการจัดงานครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ประกอบการร่วมแสดงสินค้า 23 บริษัท โดยมีสินค้าหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิว อาหารทะเล ข้าว มันหวาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องปรุงรสฯลฯ โดยผู้เข้าร่วมงานฝั่ง Buyer คือ ผู้ประกอบการร้านอาหารและร้านค้าปลีกในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงที่ได้มีการทำนัดเจรจาล่วงหน้า 73บริษัท โดยมีเสียงตอบรับเชิงบวกจากผู้ประกอบการที่ร่วมจัดแสดงสินค้า เช่น“การจะออกไปหาลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ ก็มีข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ด้วยงานนี้ทำให้ได้พบกับ Buyer จำนวนมากภายในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 วัน” และมีเสียงตอบรับที่ดีจากทาง Buyer เช่นกัน เช่น “ปกติที่ร้านก็มีการใช้วัตถุดิบอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว มางานนี้เพื่อมาหาวัตถุดิบใหม่ พอได้มาจริงก็พบว่ามีวัตถุดิบอีกมากมายที่ยังไม่เคยรู้จักมาก่อน”

นายทานิกุจิ ฮิโรกิ ผู้อำนวยการ เจโทรกรุงเทพฯ กล่าวว่า “การจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจในภูมิภาคดังกล่าวซึ่งมีศักยภาพในการขยายตัวของตลาดสินค้าอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นได้ต่อจากนี้ จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง สำหรับผู้ประกอบการที่ร่วมจัดแสดงสินค้าก็จะได้ใช้เป็นโอกาสพบปะเชื่อมโยงกับ Buyer จำนวนมากในโอกาสเดียว สำหรับ Buyer ก็เป็นโอกาสในการได้เลือกพิจารณาสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งสินค้าอาหารสด ไปจนถึงเครื่องปรุงรส หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ในโอกาสเดียวเช่นกัน”ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่เจโทรดำเนินกิจกรรมทั้งการจัดแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจเฉพาะในต่างจังหวัด นอกเหนือจากกรุงเทพฯโดยเจโทรมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมมาตรการนี้ต่อไปในอนาคต

แคมเปญ “[ Made in JAPAN on tour ]” เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้

เจโทรได้จัดโครงการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์วัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อแคมเปญ “[ Made in JAPAN on tour ] วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ยกญี่ปุ่นมาไว้ใกล้บ้าน”ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงรวม 7 จังหวัดโดยมีร้านอาหารและร้านค้าที่เข้าร่วมแคมเปญในปีนี้กว่า 24 แบรนด์ 47 ร้าน อันเป็นการขยายผลอย่างต่อเนื่องจากแคมเปญ [ Made in JAPAN ] ในปี 2565 ซึ่งเปิดรับสมัครร้านอาหารจากทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามในปี 2566 นี้เจโทรมุ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภคในภาคเหนือและภาคอีสานโดยได้เพิ่มคำว่า“on tour”ในชื่อแคมเปญ เพื่อสื่อความหมายว่าทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับวัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ใกล้บ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลถึงกรุงเทพฯ หรือประเทศญี่ปุ่น

แคมเปญนี้เป็นแคมเปญเพื่อการประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิว อาหารทะเล และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เพื่อส่งต่อความอร่อยผ่านเมนูที่ผสมผสานรสชาติของวัตถุดิบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ผ่านร้านอาหารและร้านค้าปลีกที่เป็น Japanese Food Supporter (*) ที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง24 แบรนด์ 47 ร้าน นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ และเพื่อให้ชาวเชียงใหม่ ชาวขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงได้สัมผัสกับเสน่ห์และลิ้มรสความอร่อยของวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

การวางแนวทางมาตรการส่งเสริมในครั้งนี้ กิจกรรมส่วนการจัดแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจเรียกได้ว่าเป็นมาตรการที่ทางเจโทรดำเนินการสำหรับผู้ประกอบการ ส่วนแคมเปญ [ Made in JAPAN on tour ] เป็นมาตรการส่งเสริมที่ดำเนินการสำหรับผู้บริโภค โดยมุ่งเป้าในการเข้าถึงคนไทยกว่า 6 ล้านคน หรือทุก ๆ 1 ใน 2 คนของประชากรในพื้นที่เป้าหมาย 7 จังหวัด

ความเห็นจากนายคุโรดะ จุน ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ

งานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ [Made in JAPAN on tour] จัดขึ้นในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่นโดยในงาน ประธานเจโทร กรุงเทพฯ นายคุโรดะ จุนได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า

“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ร้านอาหารญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในต่างจังหวัด ทำให้ทุกท่านได้ใกล้ชิดกับอาหารญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น สำหรับแคมเปญ [ Made in JAPAN on tour ] ในครั้งนี้ ผมหวังที่จะนำเสนอวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น และสร้างแฟนพันธุ์แท้ในกลุ่มผู้บริโภคในภาคเหนือและภาคอีสาน ท่านสามารถสัมผัสกับเสน่ห์และลิ้มรสความอร่อยของวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นได้ที่ร้านใกล้บ้านโดยไม่ต้องไปไกลถึงกรุงเทพฯ หรือญี่ปุ่น

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านอาหารและร้านค้าปลีกที่ใช้หรือจำหน่ายวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงผู้นำเข้าที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้นอีกด้วย”

ตัวเลขมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้ ประมงและอาหาร จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เจโทรยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายความต้องการไปสู่ระดับภูมิภาคทั่วประเทศไทย ไม่จำกัดเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ