Biz news

แพรนด้าได้รับการรับรองRJCต่อเป็นครั้ง3 ตอกย้ำความยั่งยืนมาตรฐานสากล



กรุงเทพฯ-เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ แพรนด้า บริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีชั้นนำระดับโลก  ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ในระดับสากลต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3  จาก สภาเครื่องประดับที่มีความรับผิดชอบ หรือ Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไร และเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับตลอดห่วงโซ่อุปทาน ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ แพรนด้า สำนักงานใหญ่กรุงเทพมหานคร และสาขานครราชสีมา ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก  RJC มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 และได้รับการต่ออายุอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุจัน ซึ่งการรับรองดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบุคคลที่สาม เพื่อยืนยันความถูกต้องและสอดคล้องตาม RJC Code of Practice ที่ครอบคลุมหลักปฏิบัติ 4 ด้าน คือ การมีจริยธรรมทางธุรกิจ สิทธิมนุษยชน การดำเนินงานทางสังคม การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการ จึงเป็นเครื่องมือที่สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสีย ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับธุรกิจจิวเวลรี่ เพื่อแสดงความถูกต้องของผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ ตั้งแต่วิธีการจัดหา แหล่งที่มา การตรวจสอบย้อนกลับ การแปรรูป ไปจนถึงร้านค้าปลีก ดังนั้น การได้รับการรับรองมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ จะเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืนของบริษัทฯ ที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มธุรกิจการผลิตเครื่องประดับ และกลุ่มธุรกิจ Omnichannel Distribution รวมถึงรองรับการแข่งขันในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การให้ความสำคัญต่อการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคทั่วโลก ที่นอกจากจะพิจารณาจากคุณภาพ คุณค่า และรูปแบบสินค้าแล้ว ยังให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้ออัญมณีและเครื่องประดับที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการจัดหาวัตถุดิบอย่างถูกต้องตามหลักจริยธรรม

แพรนด้า พร้อมก้าวสู่ทศวรรษที่ 6 ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อการเป็นสมาชิกที่ดีต่อชุมชน สังคม และโลก ตลอดจนการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับให้เติบโตควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนที่ครอบคลุมทุกมิติอย่างแท้จริง