In News

ชาวบ้านร้องกองปราบทำเกินกว่าเหตุ



ราชบุรี - ชาวบ้านต.ดอนทรายขวัญผวา ร้องเรียน"เจ้าหน้าที่กองปราบ"ทำเกินกว่าเหตุ จับกุมผู้ต้องสงสัยเหมือนกับลักพาตัว

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 17 พ.ค.64 ที่ศาลาเอนกประสงค์วัดดอนทราย หมู่ที่ 9 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ญาติพร้อมชาวบ้านกว่า 30 คน ได้รวมตัวกันร้องเรียกผ่านสื่อถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของ จนท.กองปราบ ที่นำตัว นายมนตรี สายสวาท อายุ 36 ปี นางอัญชลี คำกลิ่น อายุ 34 ปี สองสามีภรรยา และลูกสาวอายุ 15 ปี ลูกชายอายุ 13 ปี ลูกสาวคนเล็กอายุ 7 ปี ของนายมนตรี พร้อมหลานชายของตนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ไปสอบสวนเกี่ยวกับคดีคนร้ายยิง นางวราพร เนียมรักษา หรือ ครูนงค์ อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลต.ดอนทราย จนเสียชีวิต ขณะเดินทางไปร่วมงานศพที่วัดท่ามะขาม ต.ดอนทราย ซึ่งได้นำตัวไปสอบสวนที่สำนักงานกองปราบปราม ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 16 พ.ค.64 โดยไม่มีใครทราบหรือมีการแจ้งให้ญาติพี่น้องได้รับทราบ และไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นอย่างไร ซึ่งชาวบ้านหลายคนมองการกระทำของจนท.กองปราบ ว่าทำเกินกว่าเหตุ

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ญาติพร้อมชาวบ้าน ได้เดินทางมาที่สภ.โพธาราม เพื่อเข้าพบ ร.ต.อ.พลาญชัย ชัยชนะ ร้อยเวร สภ.โพธาราม ในการขอแจ้งความลงบันทึกประจำวัน พร้อมให้ดำเนินการตรวจสอบในการทำงานของจนท.กองปราบ ชุดควบคุมตัวครอบครัวของนายมนตรีไป  

นางจิตตา สายสวาท อายุ 47 ปี ญาติของผู้เสียหาย ได้ให้ข้อมูลว่า ลูกชายของตนได้ขอมาที่บ้านขอหลานอีกคน ที่พักอาศัยอยู่ที่บริเวณด้านหลังศาลาเอนกประสงค์วัดดอนทราย หมู่ที่ 9 จนดึกก็ไม่เห็นกลับมาสักที ตนจึงเข้าใจว่าคงนอนบ้านหลานอีกคน จนช่วงเช้าลูกชายวัย 15 ก็ยังไม่กลับมาที่บ้าน จึงเดินทางมาตามหาแต่กลับไม่พบใคร ทั้งน้องชายน้องสะใภ้และหลานทั้ง 3 คน รวมทั้งลูกชายของตนเองด้วย แต่ที่แปลกคือบริเวณหน้าประตูบ้านมีกุญแจอื่นมาปิดล๊อกไว้ และพบสิ่งผิดปกติหลายอย่าง จึงรีบเดินทางไปแจ้งความที่สภ.โพธาราม เพราะเกรงว่าทุกคนจะได้รับอันตราย พร้อมเดินทางไปสอบถามกำนันต.ดอนทราย จึงไม่การติดต่อสอบถามไปหน่วยงานต่างๆจนทราบว่า นายมนตรี สายสวาท อายุ 36 ปี น้องชาย นางอัญชลี คำกลิ่น อายุ 34 ปี น้องสะใภ้  ลูกสาวอายุ 15 ปี ลูกชายอายุ 13 ปี และลูกสาวคนเล็กอายุ 7 ปี ของนายมนตรี พร้อมลูกชายของตนอายุ 15 ปี ถูกจนท.กองปราบ ควบคุมตัวไปตั้งแต่เวลาปรมาณ 22.00 น. ของวันที่ 16 พ.ค. โดยอ้างว่า ได้นำตัวไปสอบสวนเกี่ยวกับคดีคนร้ายที่ยิง ครูนงค์ จนเสียชีวิต 

นางจิตตา กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อเวลาบ่ายสองโมงของวันนี้ (17 พ.ค.) หลังที่กำนันต.ดอนทรายได้ติดต่อไปที่กองปราบ จนท.กองปราบได้นำตัวลูกชายของตนมาส่งคืน แต่ไม่ได้มาส่งที่เดิมที่นำตัวไป กับไปส่งไว้อีกที่หนึ่ง ทำให้ตนและชาวบ้านยิ่งสงสัยของการทำงานของจนท.กองปราบ เมื่อสอบถามลูกชาย กับมีอาการหวาดกลัว และพูดว่าไม่รู้อะไร ต่อจากนั้นก็ไม่ยอมพูดกับใครอีก ทางตนจึงติดต่อไปที่กำนันต.ดอนทราย เพื่อสอบถามถึงน้องชายและน้องสะใภ้ พร้อมลูกๆ กลับได้รับคำตอบว่าทางจนท.กองปราบ จะนำตัวทั้งหมดมาส่งคืนในเวลา 17.00 น. ของวันนี้ แต่ตนและชาวบ้านมารอตั้งแต่เที่ยงจนถึงเวลาถึงกำหนดส่งตัวคืน กับไม่พบจนท.กองปราบ นำตัวของชายและน้องสะใภ้ พร้อมลูกๆ มาส่งคืนจึงมีความกังวนและเป็นห่วงอยากมาก จึงรวมตัวกันเพื่อจะเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โพธาราม เนื่องจากตนและชาวบ้าน คิดว่าการกระทำของจนท.กองปราบ ทำเกินว่าเหตุเกินไปจริงๆ ซึ่งตนยังไม่รู้เลยว่า น้องชายและลูกสะใภ้ พร้อมลูกๆ โดนควบคุมตัวไปทำอะไรหรือไหม แล้วจริงๆการจะนำตัวไปสอบสวนเกี่ยวกับคดีทำไมต้องควบคุมตัวเด็กทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นลูกของน้องชาย 3 คน และลูกของตน 1 คน นำไปสอบสวนอะไรเด็กเกี่ยวอะไรด้วย และลูกของตนกลับมามีอาการแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ ตนกับชาวบ้านจึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวตนและน้องชายของตนด้วย

ขณะเดียวกัน จ.ส.อ.ชัยณรงค์ ขาวดอกบัว อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นญาติอีกคน ได้กล่าวว่า อยากฝากถึงจนท.กองปราบ การที่นำตัวครอบครัวน้องชายของตนไปสอบสวนหรือสอบปากคำ หรือจะนำตัวไปเป็นพยานนั้น จนท.กองปราบ ควรติดต่อกับทางญาติก่อนไม่ใช่นำตัวไปโดยภาระการแบบนี้ ซึ่งหากวันนี้ญาติของตนไม่สงสัยและเดินทางมาดู คงไม่รู้เลยว่า ครอบครัวของน้องชายถูกจนท.กองปราบควบคุมตัวไป ซึ่งตนถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง โดยตนรอจนถึงเวลาที่ทางจนท.กองปราบ ได้ติดต่อมาจะนำตัวครอบครัวของน้องชายมาส่งคือ แต่เมื่อถึงเวลาแล้วกับไม่นำตัวมาส่งคือตนจึงเตรียมตัวเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โพธาราม เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของจนท.กองปราบต่อไป

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี