EDU & ESG

เช้ามืด25ก.ค.นี้มี'ดวงจันทร์บังดาวเสาร์' ครั้งแรกของปี 



ปราจีนบุรี-เมื่อเวลา 21.10 น.วันนี้ 23 ก.ค.67  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับแจ้งจาก  งานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กรสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม (อว.) เผยเช้ามืด 25 กรกฎาคม 2567 เกิดปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” เวลาประมาณ  03:09 - 04:27 น. (ตามเวลากรุงเทพมหานคร) หากมองจากโลก ดาวเสาร์จะค่อย ๆ ลับหายไปหลังดวงจันทร์  และ  กลับมาปรากฏอีกครั้ง หากฟ้าใส ไร้เมฆฝน สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั่วไทย หรือรับชมถ่ายทอดสดปรากฏการณ์   ผ่านทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ตั้งแต่เวลา 02:30 น. เป็นต้นไป

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สดร. เปิดเผยว่า ช่วงก่อนรุ่งเช้า ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จะเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ (Lunar Occultation of Saturn)  ขณะเริ่มเกิดปรากฏการณ์วัตถุทั้งสองจะปรากฏอยู่บริเวณกลางท้องฟ้า โดยดาวเสาร์จะปรากฏใกล้กับส่วนสว่างของดวงจันทร์ ดาวเสาร์จะเริ่มสัมผัสขอบดวงจันทร์ฝั่งเสี้ยวสว่างและค่อย ๆ ลับหายไปด้านหลังของดวงจันทร์ เวลาประมาณ 03:09 น. และโผล่พ้นออกมาทั้งดวงอีกครั้งในฝั่งพื้นผิวส่วนมืด เวลาประมาณ 04:27 น. (ข้อมูลดังกล่าวคำนวณจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากสังเกตการณ์ในพื้นที่อื่น ช่วงเวลาของการบังอาจจะเริ่มและสิ้นสุดไม่พร้อมกัน) สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทุกจังหวัดทั่วไทย 

ทั้งนี้ หากมองด้วยตาเปล่าจะสังเกตเห็นเป็นจุดดาวเล็ก ๆ เคลื่อนหายไปหลังดวงจันทร์ แต่หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์จะสังเกตเห็นรายละเอียดดาวเสาร์พร้อมวงแหวนค่อย ๆ ลับหายไปหลังดวงจันทร์ และโผล่พ้นออกมาทั้งดวงได้อย่างชัดเจน หรือรับชมถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ตั้งแต่เวลา 02:30 เป็นต้นไป

นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบังกันของวัตถุท้องฟ้า (Occultations) เป็นปรากฏการณ์ที่วัตถุท้องฟ้าหนึ่งเคลื่อนที่ผ่านหน้ามาบังอีกวัตถุหนึ่งเมื่อสังเกตจากแนวสายตา อาทิ ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ ดวงจันทร์บังดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์บังดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์บังกันเอง เป็นต้น เราสามารถใช้ปรากฏการณ์นี้คำนวณหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ คำนวณหาระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ ตรวจหาและศึกษาโครงสร้างของชั้นบรรยากาศ รวมถึงการใช้ตรวจหาวงแหวนของดาวเคราะห์ชั้นนอกได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อวงการวิจัดาราศาสตร์


ปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” ในปีนี้เกิดขึ้น 2 ครั้งต่อไป ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ในช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 02:19 - 03:00 น. สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในพื้นที่ภาคเหนือ บางส่วนของภาคกลาง บางส่วนของภาคตะวันตก และบางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ข้อมูลดังกล่าวคำนวณจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หากสังเกตการณ์ในพื้นที่อื่น ช่วงเวลาของการบังอาจจะเริ่มและสิ้นสุดไม่พร้อมกัน) ติดตามข้อมูลปรากฏการณ์เพิ่มเติมได้ทาง เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

มานิตย์  สนับบุญ/ ปราจีนบุรี