In News
ศปช.เตือนปชช.ภาคกลาง-ตะวันออก-ใต้ ติดตามเฝ้าระวังฝนตกหนัก19-21ต.ค.นี้
กรุงเทพฯ-ศปช.เตือน ปชช.ภาคกลาง ตะวันออก และภาคใต้ติดตามเฝ้าระวัง ภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 19-21 ตุลาคม เผยภาคเหนือ อีสานเย็นลง 1-3 องศา ระบุฟื้นฟูแม่สายคืบหน้า 99%
วันนี้ (19 ตุลาคม 2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า เตือนประชาชนในช่วงวันที่ 19 – 22 ต.ค. นี้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 25 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ร่องมรสุมเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับภาคภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ขอให้ดูแลรักษาสุขภาพเนื่อจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย
ในส่วนของ ศปช. แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
ช่วงวันที่ 19-21 ตุลาคม ดังนี้ พื้นที่ภาคกลาง จังหวัดราชบุรี : บ้านคา ปากท่อ และจังหวัดเพชรบุรี : แก่งกระจาน ท่ายาง ภาคตะวันออก ได้แก่จังหวัดตราด : เขาสมิง เกาะช้าง เกาะกูด คลองใหญ่ เมือง แหลมงอบ จังหวัดจันทบุรี : เขาคิชฌกูฎ มะขาม เมือง จังหวัดชลบุรี : บางละมุง ศรีราชา สัตหีบ บ้านบึงและจังหวัดระยอง : เขาชะเมา แกลง เมือง ภาคใต้ ได้แก่จังหวัดระนอง : กะเปอร์ สุขสำราญ จังหวัดพังงา : กะปง ตะกั่วป่า และจังหวัดภูเก็ต : ถลาง กะทู้ เมืองภูเก็ต
สำหรับความคืบหน้า ศปช.ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กห.ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ตรวจความเรียบร้อยโดยลาดตระเวนทางเท้าและทางรถยนต์ การนำดินโคลนออกจากบ้านเรือน ปชช.เรียบร้อยแล้ว 99% เหลือการเก็บรายละเอียดพื้นที่ส่วนกลาง การนำกองดินออกจากถนน การขุดลอกท่อระบายน้ำหลัก และการเก็บขยะตกค้าง ฯลฯ ส่วนการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ฟื้นฟูครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยน้ำท่วมแล้ว807 หลังคาเรือน จากทั้งหมด 819 หลังคาเรือน ทั้งนี้ ยังมีบางพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ มีน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำสาย ยังอยู่ในระดับสูงกว่าภาวะปกติเล็กน้อย