In News
นายกฯแถลงหลายประเด็นในประชุมครม. 'กระตุ้นศก.-ถกภาษีมะกัน-หวยการศึกษา'

นครพนม-นายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลมีแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตัวเลขจีดีพีของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยังได้กล่าวยอมรับมีการคุยอาเซียนเพื่อผนึกกำลังเจรจาแก้ปัญหาภาษีสหรัฐอเมริกา ยืนยันทำเต็มที่ทุกทาง และยังได้เห็นชอบโครงการออกสลากการกุศลเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพ ODOS ในรอบแรก จำนวน 7 โครงการ วงเงิน 5,308.14 ล้านบาท และครม. อนุมัติโครงการ กลุ่ม 4 จังหวัด ยกระดับพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำโขงสู่การเป็นมหานครแห่งพฤกษเวช และเห็นชอบโครงการทุนการศึกษาพัฒนาศักยภาพ ODOS นอกจากนี้ก่อนประชุมครม. นายกรัฐมนตรีนำ ครม.สวมเสื้อ “ศรีโคตรบูร” เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP นครพนม ภูมิปัญญาลุ่มน้ำโขง
นายกฯย้ำแผนระยะสั้น-กลาง-ยาวกระตุ้นศก.
วันนี้ (29 เมษายน 2568) เวลา 11.30 น. ณ บริเวณโถงกลาง หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม มุกดาหาร และสกลนคร) ถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังธนาคารโลกปรับตัวเลขจีดีพีของประเทศไทย ว่า รัฐบาลมีแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่ได้ดำเนินการมาตลอด โดยระยะสั้นได้ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงเรื่องของการลงทุนที่นำการลงทุนเข้ามาในประเทศ และที่สำคัญได้ประชุมกับสำนักงบประมาณเร่งการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้เปอร์เซ็นต์สูงที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ที่มีการลงทุนจากภาครัฐที่กระตุ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะทราบดีว่าวิกฤติเศรษฐกิจเป็นวิกฤตทั่วโลก จึงต้องทำเต็มที่ทุกเรื่อง เช่นเดียวกับเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เม้นคอมเพล็กซ์ ก็ได้ผลักดันเรื่องนี้ให้มีผลดีในอนาคตเช่นเดียวกัน
นายกฯยอมรับมีการคุยอาเซียนเพื่อผนึกกำลังเจรจาสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีมีข้อสั่งการ เรื่องการร่วมมือกับอาเซียน ในการแก้ปัญหาภาษีสหรัฐอเมริกาว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา รวมถึงนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียแล้ว โดยเน้นในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว มาเป็นจุดที่แต่ละประเทศจะนำมารวมพลังเพื่อเป็นข้อต่อรองที่สำคัญ เพราะเมื่อรวมกลุ่มอาเซียน จะมีประชากรมากขึ้น และมีน้ำหนักมากขึ้นในการต่อรองกับสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประชุมนอกรอบอีกครั้ง รวมถึงจะหยิบยกไปพูดคุยในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ที่จังหวัดสระแก้วด้วย
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่าการฟ้องนายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการ อาจถูกหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขทำให้การเจรจายากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการควบคู่ไปกับกระทรวงพาณิชย์ ทั้งหมดนี้เป็นการเจรจาในภาพรวมทั้งหมด ได้มีการพูดคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมยอมรับว่าเรื่องของวันเจรจา ขณะนี้ยังไม่ได้ระบุออกมา จะเห็นได้ชัดว่าเรื่องความเร็วไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่เป็นเรื่องของความแม่นยำมากกว่า และต้องมีข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นในการไปเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งก็ยังคงทำอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลไทย ไม่ได้ถูกเลื่อนการเจรจา แต่ไม่ได้มีการประสานตกลงวันเจรจาตั้งแต่แรก นายกรัฐมนตรีย้ำว่า เป็นข่าวลือ ไม่ต้องการนำมาเล่นเป็นประเด็นการเมืองเช่นนี้ เพราะไทยกับสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ต้องผนึกกำลังกันไว้ เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้การเจรจาต่อรองเข้มแข็ง
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายต้องการให้มีการไปเจรจาก่อน เพื่อให้เห็นความต้องการของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องถึงเรื่องความต้องการของสหรัฐฯ การทำงานร่วมกันในกลุ่มต่าง ๆ ทั้งเรื่องการค้า ที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นคนรับผิดชอบอยู่ตอนนี้ ต้องคุยกันทุกแง่มุมให้เรียบร้อยก่อน พร้อมกล่าวยืนยันว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม และยังติดต่อกับทางสหรัฐฯ ต่อเนื่อง
เผยครม.เห็นชอบโครงการออกสลากการกุศลหนุนการศึกษา
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้มีการออกสลากการกุศลเพื่อสนับสนุนโครงการทุนการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพ ODOS ในรอบแรก จำนวน 7 โครงการ วงเงิน 5,308.14 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการ ดังนี้
1.โครงการสำหรับทุนการศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีระยะสั้นในต่างประเทศ โดยจะส่งเยาวชนซึ่งเป็นตัวแทนจาก 878 อำเภอ ทั่วประเทศและจากกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต
2.โครงการสำหรับทุนศึกษา ปวส.จำนวน 60 ทุน และระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ จำนวน 140 ทุน รวม 200 ทุน
3.โครงการสำหรับทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี ณ สหรัฐอเมริกา จำนวน 60 ทุน ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4.โครงการสำหรับทุนการศึกษาปริญญาตรีในสหราชอาณาจักร จำนวน 50 ทุน ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 25 ทุน
5.โครงการสำหรับทุนการศึกษาระดับปวส.และระดับปริญญาตรี ณ ออสเตรเลีย โดยขอรับการสนับสนุนการศึกษาจากปวส. จำนวน 60 ทุน และระดับปริญญาตรีจำนวน 30 ทุน รวมทั้งสิ้น จำนวน 90 ทุน
6.โครงการสำหรับทุนการศึกษาปริญญาตรีในประเทศ จำนวน 2,200 คน ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 6 รุ่น รุ่นละ 1,100 คน (ผู้รับทุนรัฐบาลจากโครงการสลากฯ จำนวน 700 คน และผู้รับทุนรัฐบาลจากโครงการสลากฯ และบางส่วนจากทุนสถาบันอุดมศึกษาเป็นค่าเล่าเรียนตามระเบียบของสถาบันการศึกษา จำนวน 400 คน)
7.โครงการสำหรับทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และ ปวส.ในประเทศจำนวน 4,800 คน ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM) โดยแบ่งเป็น 4 รุ่น รุ่นละ 1,200 คน
นายกฯ เผย ครม. อนุมัติโครงการ กลุ่ม 4 จังหวัด ยกระดับพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำโขงสู่การเป็นมหานครแห่งพฤกษเวช และเห็นชอบโครงการทุนการศึกษาพัฒนาศักยภาพ ODOS
นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ตามที่สภาพัฒน์ฯ เสนอ ในหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัด จำนวน 4 โครงการ กรอบวงเงิน 200 ล้านบาท และหลักการของโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน จำนวน 5 โครงการ กรอบวงเงิน 200 ล้านบาท โดยการจัดสรรงบกลางปี 2568 ครอบคลุมถึงโครงการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงและการยกระดับสู่การเป็นเมืองมหานครแห่งพฤกษเวช เพื่อรองรับการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง
นายกฯนำครม.สวมเสื้อ“ศรีโคตรบูร”เยี่ยมชมOTOPนครพนม
ก่อนหน้านี้เวลา 09.30 น. ณ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีร่วมสวมเสื้อ “ศรีโคตรบูร” ซึ่งเป็นเสื้อที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมพื้นเรียบสีกรมท่าย้อมสีธรรมชาติ (ย้อมคราม) ขลิบด้วยผ้าไหมพื้นเรียบสีแดง (ย้อมครั่ง) ตกแต่งด้านหน้าของตัวเสื้อด้วยผ้าไหมมัดหมี่ “ลายขอก่ายแก้ว” ซึ่งเป็นลายพื้นถิ่นที่มีความหมายอันเป็นมงคลที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคง ทอโดยกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ และโครงการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง “นาหว้าโมเดล” ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “เสื้อชุดศรีโคตรบูร” ถือเป็นชุดแต่งกายที่มีการหลอมรวมประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดนครพนมโดยวันนี้นายกรัฐมนตรีมีท่าทางและสีหน้าที่สดชื่นขึ้น
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการ ชมสินค้าโอทอป จังหวัดนครพนม และจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ ประกอบด้วย
- นิทรรศการ "เส้นทางสายธรรม พระธาตุประจำวันเกิด" นิทรรศการ ผลไม้ GI นครพนม
- นิทรรศการ "ชุมชน ยลวิถี" บ้านท่าเรือ ตำบลท่าเรือ อำเภอนาหว้า ซึ่งได้มอบแคนใหญ่ ลายโบราณ ผลิตภัณฑ์ของบ้านท่าเรือ เป็นของที่ระลึก
- นิทรรศการ สานกกครูเรือง ได้มอบกระเป๋ากก ลายพระราชทาน ตัว S กระเป๋ากก ลายดอกรักต้นสน กระเป๋ากก ลาย ครม. เป็นของที่ระลึก
- นิทรรศการเรือไฟโบราณนครพนม นิทรรศการ โครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม
- นิทรรศการ OTOP นครพนมภูมิปัญญา ลุ่มน้ำโขง อาทิ ปุณณดา แปรรูปผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ อ.นาทม จ.นครพนม อนุสราแปรรูปผ้า อ.นาหว้า จ.นครพนม กลุ่มแปรรูปผ้า (ละมัยผ้าทอ) ละมัย ไม้มงคล NAWHA
- ศูนย์หัตถกรรม วัดธาตุประสิทธิ์จังหวัดนครพนม กลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ กลุ่มภูมิปัญญา ผู้ไทเรณูนคร อ.เรณูนคร จ.นครพนม กาละแมครูน้อย อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
- กลุ่มอาชีพสตรี ไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี อ. นาทม จ.นครพนม กลุ่มจักสานบ้านหนาด ม.2
- วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมงานผ้า "ผ้าไทย สไตล์คราฟท์ "แก้วกิริยา" อ.ธาตุพนม ได้มอบกระเป๋าถือ ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ เป็นของที่ระลึกให้นายกรัฐมนตรี
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้อุดหนุนกระเป๋าสานใบใหญ่ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ชุมชนจักสานเส้นกกเหลาพัฒนา กระติบรูปหัวใจ ไม้กวาดจากดอกหญ้าขนตาช้าง และผ้าไหมสามกษัตริย์ เพื่อเป็นกำลังใจ ให้กับผู้ประกอบการ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทักทายนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม จำนวน 100 คน ที่รอให้การต้อนรับพร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับชม รำ “ศรีโคตรบูร” โดยวงดนตรี พิณ แคน ฟันน้ำนม ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ “ ศพอ.” วัดศรีโพธิ์ชัย
สำหรับการประชุม ครม. สัญจรครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเวทีหารือแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาภูมิภาคแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมโยงอนุภูมิภาคและจุดหมายการพักผ่อนริมโขงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย