In Bangkok
อบจ.อุดรธานีควัก16.9ล้านซื้อโมเดอร์นา
อุดรธานี-อบจ.อุดรธานีควักอีก 16.9 ล้านบาทซื้อโมเดอร์นา จากสภากาชาดไทย ประชาชนที่มาฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก เผยรู้สึกมั่นใจมีภูมิคุ้มกัน จะได้ไปไหนสบายใจ
วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เวลา11.00 น. หลังจากมีการส่งต่อเอกสารสภากาชาดไทยถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี (อบจ.อุดรธานี) เรื่องการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ Moderna (โมเดอร์นา) จนเป็นที่พูดถึงในวงกว้างว่าเป็นความจริงหรือไม่ มีการสอบถามถึงแหล่งข่าวที่มาเพื่อหาคำตอบ ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี ทราบว่าอยู่ในช่วง Work from home เนื่องจากทราบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในสำนักงาน จนต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และยังไม่สะดวกให้เข้ามาสัมภาษณ์
นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี เปิดเผย ผ่านทางโทรศัพท์ว่า สภากาชาดไทยทำส่งหนังสือถึงจังหวัดอุดรธานีและ อบจ.อุดรธานี ให้ซื้อวัคซีนโมเดอร์นามาฉีดให้กับพี่น้องประชาชน จึงได้มาดูงบประมาณฉุกเฉินของเราที่เหลืออยู่ประมาณ 40 ล้านบาท หลังจากตั้งงบซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มกับทางราชวิทยาลัยจุราภรณ์ไปแล้ว 100 ล้านบาท จึงตั้งใจว่าจะใช้งบประมาณที่เหลือนี้ซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ทั้งหมด 40 ล้าน หรือ 30,768 โดส แต่เมื่อวานนี้ก็ได้มีหนังสือตอบกลับมาแล้วว่าล็อตนี้ได้เพียง 15,384 โดส โดสละ 1,100 บาท เป็นเงิน 16,922,400 บาท ซึ่งทาง อบจ.อุดรธานี ได้ดำเนินการโอนเงินให้ทางสภากาชาดไทยไปแล้วเต็มจำนวน
วัคซีนโมเดอร์นาล็อตนี้แจ้งมาว่าจะนำส่งได้ภายในเดือนตุลาคม 2564 นี้ ความตั้งใจแรกหากได้มาตามเป้าที่ขอซื้อ 40 ล้านบาท ก็จะฉีดประชาชนคนละ 2 โดส จะได้ประมาณ 18,000 คน แต่เราได้มาก่อนครึ่งหนึ่งในล็อตนี้ ก็จะฉีดประชาชนได้ประมาณ 7,500 คน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทยดังนี้ 1.ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์ 2.ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป 3.บุคลากรทางแพทย์ในถิ่นทุรกันดาร 4.ผู้ที่ทำงานประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูโรงเรียนอนุบาล และ 5.บุคลากรที่ปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ทั้ง 5 กลุ่มนี้ต้องเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนใดใดมาก่อน
ส่วนวัคซีนซิโนฟาร์มจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จากที่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะฉีดประชาชนได้ 56,000 คน อย่างที่ทราบเราได้มาเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ หรือ 5,600 คน ก็ยังเป็นเป้าหมายเดิมคือกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเสี่ยง และบุคลากรด่านหน้า ทั้งหมดเราก็ยังรอการส่งมอบวัคซีนเข้ามาในพื้นที่ตามการจัดสรร ซึ่งทาง อบจ.อุดรธานี ไม่มีบุคลากรทางด้านการแพทย์ ก็ต้องส่งมอบต่อให้กับทางสาธารณสุข จ.อุดรธานี เพื่อดำเนินการมติของคณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัดต่อไป
ส่วนที่หอประชุม มหาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อม หรืออสม. โดยเริ่มฉีดเข็มแรก ตั้งแต่วันที่2 เมษายน ถึง 21 ก.ค. จำนวน104,379 คน เป็นเข็มแรก ส่วนเข็มสอง 35,312 คน วันนี้ เป็นการฉีดวัคซีนซิโนแวค ให้กับประชาชน อายุ18ปี ขึ้นไป โดยเข็มที่สองจะฉีดให้เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งจะห่างกัน 3-4 สัปดาห์
นายวีระพัฒน์ แย้มศรีกุล 62 ปี 403 ม.3 ต.สามพร้าว บอกว่า วันนี้ตนมาฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก ตนมีความรู้สึกว่าอยากมีภูมิคุ้มกัน ยี่ห้อไหนตนก็ขอได้ฉีดก่อน เพราะคิดเราจะได้มีเกราะคุ้มภัย โดยร่างกายจะมีภูมิคุ้มกัน ถ้ารอวัคซีนยี่ห้ออื่นก็ไม่รู้ว่าจะมาตอนไหน ตนไม่มีโรคประจำตัว ส่วนภรรยาก็ได้มาฉีดวัคซีนไปแล้ว ซึ่งคิดว่าการที่ได้รับวัคซีนก็จะมีภูมิคุ้มกันในการป้องกันโควิดได้
น.ส.ณัฐวดี บุญญะวรรณ์ 31 ปี 200/2 ซ.มะขามหวาน1 ถ.นเรศวร ต.หมากแข้ง บอกว่า ตนมาซีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก ปัจจุบันนี้ตนขายของออนไลน์ ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานขายเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า แต่โควิดได้ย้ายไปต่างจังหวัดและยุบสาขาอุดร ตนจึงออกมาขายของออนไลน์ ว่าจะเป็นร้านเสริมสวยแต่โควิตจึงหยุดไว้ก่อนตนรู้สึกว่าได้วัคซีนเร็วก็ดี เพราะจะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้ไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้อกลัวมาก ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ฉีกวัคซีน ก็ไม่ได้ออกไปไหน อยู่บ้านอย่างเดียว แต่ก็ระวังตัวให้มากที่สุดเพราะกลัวติดเชื้อโควิด ตนคิดว่าได้รับวัคซีนก็สบายใจขึ้นได้รับสักเข็มก็ยังดี จะได้มีภูมิคุ้มกัน
กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี