Authority & Harm

DSIบุกสนงที่ดินบุรีรัมย์หาข้อมูลเชิงลึก เขากระโดงพบมีเชื่อมโยง



บุรีรัมย์-อำเภอเมือง/กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจสอบหาข้อมูลที่สำนักงานที่ดินบุรีรัมย์ กรณีพื้นที่พิพาทเขากระโดง ว่ามีการร่วมกันจงใจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย, ใช้อำนาจโดยทุจริตเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นในการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ เบื้องต้นพบมีการเชื่อมโยงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ฟันธงเพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถือโฉนด

วันที่ 19 ส.ค.68 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ 97/2568 ได้เดินทางมาที่สำนักงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอข้อมูลความเป็นมาของที่ดินครอบครองของการรถไฟ(ที่ดินเขากระโดง)ที่เป็นข้อพิพาทมานาน โดยได้มีการตรวจสอบแผนที่ ระวางแผนที่ ความเป็นมาของที่ดินและประวัติการทำธุรกรรมด้านที่ดินข้อพิพาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ในการตรวจสอบ

พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันนี้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีสืบสวนที่ 97/2568 ได้เดินทางมาที่ที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อมาขอข้อมูลข้อเท็จจริง เกี่ยวกับพื้นที่เขากระโดงซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟ 5,083 ไร่ เบื้องต้นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ข้อมูลที่เราต้องการเรื่องของสารบบที่ดินที่มีอยู่หลายแปลง รวมทั้งประวัติความเป็นมา ซึ่งสำนักงานที่ดินได้ค้นให้ทางเราซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการที่จะอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่ายในการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

วันนี้เราได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับระวางแผนที่ ระวางภาพถ่ายทางอากาศต่างๆ เพื่อไปตรวจสอบว่า แผนที่ที่เราได้จากการรถไฟถูกต้องตรงกันหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะได้นำมาทำการสืบสวนต่อไป 

เบื้องต้นทางทางพนักงานสืบสวนสอบสวนเราได้ทำข้อมูลแผนที่ 1ต่อ 4,000 ในภูมิประเทศจริงกับแผนที่ที่การรถไฟให้มาและแผนที่ตั้งแต่เริ่มสร้างทางรถไฟที่เขากระโดงซึ่งได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกันถูกต้อง ซึ่งเราจะได้นำข้อมูลนี้มาทำการสืบสวนสอบสวน

อีกส่วนหนึ่งจะต้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมว่า ได้มีใครมายื่นร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่ามีหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 12 หน่วยงานซึ่งอยู่ในพื้นที่ดินข้อพิพาทว่าที่ดินดังกล่าวได้มาอย่างไร รวมถึงที่ดินที่เป็นยเอกสารที่ทางราชการออกให้เพื่อแสดงแนวเขตที่ดินของรัฐ(นสล.)บริเวณชายขอบของที่ดินการรถไฟอีกด้วย นี่คือเบื้องต้นของการตรวจสอบข้อเท็จจริง

เบื้องต้นเราพบว่ามีการออกโฉนดเมื่อปี 2513 เรื่อยมาจนถึงปี 2554-2555 นอกจากนี้เรายังพบว่าการรถไฟได้มารับรองโฉนดที่ออกอีกด้วย ซึ่งอันนี้เราจะต้องตรวจสอบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยยังจะไปหาข้อมูลของการรถไฟลำปลายมาศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่เหล่านี้ เพื่อมาประกอบอีก

สำหรับคดีที่มีคำพิพากษาแล้วและกฤษฎีกาตีความแล้วนั้น เราจะต้องพิสูจน์สิทธิ์ของผู้ที่มีโฉนดว่าใครมีสิทธิ์ดีกว่าซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในการพิสูจน์สิทธิ์ว่าใครเอาหลักฐานอะไรมาใช้ในการออกโฉนด เช่น สค.1 ,ใบจอง หรือใบเหยียบย่ำ หรือ น.ส.3 ทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐานสาระบบ เพราะยังพบว่ายังมีพื้นที่ว่างอยู่ในพื้นที่นี้อยู่ด้วย

ส่วนจะเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่นั้น คดีทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมเรื่องที่ดิน เรื่องนี้จะมีบัญชีท้ายคือการครอบครองที่ดินเกินกว่า 50 ไร่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบนั้นสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงาน