In News
ผู้ว่าฯนครปฐมรุกออกประกาศ3ฉบับรวด เข้ม!เข้า-ออกเมือง-ปิดรร.-ปิดร้านกินดื่ม
นครปฐม-ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ออกประกาศ 3 ฉบับรวด คุมการใช้อาคาร เดินทางเข้าออกและเปิดปิดร้านอาหาร ป้องกระจายโควิด-19
วันนี้ 6 ธันวาคม 63 จังหวัดนครปฐม ได้ออกหนังสือ ประกาศจังหวัดนครปฐม จะนอน 3 ฉบับ เพื่อควบคุมและลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีการแพร่กระจายในขณะนี้
ประกาศจังหวัดนครปฐมฉบับที่ 4 /2564เรื่อง กำหนดมาตรการงดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด โดยที่การระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้ขยายขอบเขตการแพร่โรคออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายเขตพื้นที่ และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ประกอบกับมีการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรากฏอาการของโรคเป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ออกไปในลักษณะที่เป็นกลุ่มก้อน จนส่งผลให้เกิดเป็นการระบาดระลอกใหม่ในวงกว้าง
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐม ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2564 จึงให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดซึ่งเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด อันอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และทำให้ต้องใช้ระยะเวลาเดินทางมากกว่าปกติ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศจังหวัดนครปฐมฉบับที่ 5 /2564เรื่อง ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาโดยที่การระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้ขยายขอบเขตการแพร่โรคออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายเขตพื้นที่ และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ประกอบกับมีการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรากฏอาการของโรคเป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ออกไปในลักษณะที่เป็นกลุ่มก้อนจนส่งผลให้เกิดเป็นการระบาดระลอกใหม่ในวงกว้าง
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐม ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2564 จึงห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภท อาทิ สถาบันอุดมศึกษา (ภาครัฐและเอกชน) ทั้งในระบบและนอกระบบ โรงเรียน (ภาครัฐ-เอกชน-นานาชาติ) สถานที่กวดวิชา และสถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
(1) การจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกล หรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
(2) การใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะแก่บุคคล
(3) การจัดกิจกรรมของทางราชการ หรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
(4) โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็ก ที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียน ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบคน
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2564
ฉบับที่ 6/2564เรื่อง การกำหนดระยะเวลา เปิด-ปิด การให้บริการของสถานประกอบการบางประเภทโดยที่การระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้ขยายขอบเขตการแพร่โรคออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายเขตพื้นที่ และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ประกอบกับมีการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรากฏอาการของโรคเป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ออกไปในลักษณะที่เป็นกลุ่มก้อน จนส่งผลให้เกิดเป็นการระบาดระลอกใหม่ในวงกว้าง
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐม ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2564 จึงให้ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ภัตตาคาร ศูนย์อาหาร สวนอาหาร ห้องอาหารในโรงแรม ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึง เวลา 06.00 น. ของวันถัดไป ยกเว้นการจำหน่ายเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น และห้ามการจำหน่าย การบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในสถานที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติจะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง