In Global
การยกระดับFTAจีน-อาเซียนจุดยึดสำคัญ สร้างเสถียรภาพทางศก.ระดับภูมิภาค
ปี 2025 ถือเป็นวาระครบรอบ 15 ปีของการจัดตั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (CAFTA) รวมทั้งเป็นปีแห่งการลงนามในพิธีสารปรับปรุงฉบับใหม่ (Upgrade Protocol) สำหรับเวอร์ชัน 3.0 ของข้อตกลงนี้ ซึ่งสะท้อนถึงพัฒนาการเชิงลึกของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนจากเวอร์ชัน 1.0 สู่ 3.0
ท่ามกลางสงครามภาษีที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้จุดชนวน และการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจการค้าระดับโลก ความมุ่งมั่นร่วมกันของจีนและอาเซียนต่อการค้าเสรีและความร่วมมือในภูมิภาคยิ่งทวีความสำคัญ เป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเสริมเสถียรภาพทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
CAFTA ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอด 15 ปีที่ผ่านมา โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี โดยข้อตกลงนี้แล้วเสร็จในปี 2010 นับเป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกของจีนกับภูมิภาคภายนอก และเป็นข้อตกลงแรกของอาเซียนกับประเทศนอกกลุ่ม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือผ่านความเปิดกว้าง และแสวงหาการพัฒนาผ่านความเป็นหุ้นส่วน
จากข้อมูลศุลกากรจีน การค้าระหว่างจีนกับอาเซียนในปี 2009 (ปีก่อน CAFTA เสร็จสมบูรณ์) อยู่ที่ 2.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ในปี 2010 ซึ่ง CAFTA เริ่มมีผลบังคับใช้ การค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2.9278 แสนล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 37% ภายในปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างกันแตะ 9.8234 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.8% จากปีก่อนหน้า โดยอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนต่อเนื่อง 5 ปี และจีนเป็นคู่ค้าหลักของอาเซียนมาแล้ว 16 ปีซ้อน
ในด้านการลงทุน ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ณ เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว การลงทุนสองทางระหว่างจีนและอาเซียนมีมูลค่าสะสมมากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ ผลลัพธ์เหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของทั้งสองฝ่ายในการยกระดับกลไกความร่วมมือ CAFTA และเปิดเสรีเชิงสถาบัน
การเปิดตัว CAFTA เวอร์ชัน 3.0 ถือเป็นบทใหม่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอาเซียน โดยการเจรจาเนื้อหาสาระเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และสมาชิกทั้ง 11 ประเทศจะร่วมลงนามในพิธีสารในปีนี้ ครอบคลุม 9 ด้านสำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน
ในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล จะส่งเสริมทั้งโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (“hard connectivity”) และการประสานระบบ เช่น e-invoicing และการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (“soft connectivity”) พร้อมทั้งมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการค้าดิจิทัลที่สูงขึ้น
ด้านเศรษฐกิจสีเขียวจะเน้น 8 ประเด็นหลัก เช่น การค้าสีเขียว การลงทุน และมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานอย่างยั่งยืน ส่วนด้านห่วงโซ่อุปทาน ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงัก และส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างสอดประสาน
แม้โลกจะเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่ความสัมพันธ์เชิงเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิดระหว่างจีนกับอาเซียนยิ่งมีความสำคัญ โดยทั้งสองฝ่ายกำลังสร้างต้นแบบของความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เปิดกว้าง นวัตกรรม และยั่งยืน ซึ่งช่วยเสริมพลังเชิงบวกให้เศรษฐกิจในและนอกภูมิภาค
ที่การประชุมสุดยอดจีน-อาเซียน ครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ระบุว่า
“การยกระดับข้อตกลงการค้าเสรีครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกระแสกีดกันทางการค้ามากขึ้น”ซึ่งถือเป็นข้อความชัดเจนถึงความสำคัญของการค้าเสรีและความร่วมมือแบบวิน-วิน
จีนยังได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ 108 ฉบับกับเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ครอบคลุมการทบทวนทางกฎหมายและการประสานงานภายในประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงนาม Upgrade Protocol ของ CAFTA 3.0 อย่างเป็นทางการในปี 2025
ตัวอย่างเช่น แถลงการณ์ร่วมระหว่างจีนและมาเลเซีย ระบุว่าทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นต่อการบูรณาการเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และจะร่วมกันผลักดันการดำเนินการตามข้อตกลง RCEP อย่างมีคุณภาพ พร้อมผลักดันให้พิธีสาร CAFTA 3.0 มีผลบังคับใช้อย่างรวดเร็ว
ข้อตกลงความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมโครงการสำคัญในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล สีเขียว และการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจที่จะนำการออกแบบเชิงสถาบันของ CAFTA 3.0 มาสู่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จับต้อง
กล่าวโดยสรุป CAFTA ได้กลายเป็นเสาหลักที่ช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ในอนาคต ทั้งจีนและอาเซียนจะใช้ CAFTA 3.0 เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในการส่งเสริมความเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ การบูรณาการระดับภูมิภาค และความร่วมมือทางการค้า โดยร่วมกันปลดปล่อยศักยภาพของตลาดมหาศาลที่มีประชากรมากกว่า 2 พันล้านคน เพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นใจให้กับเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลก
แหล่งข้อมูล: https://news.cgtn.com/news/2025-05-08/Upgrading-China-ASEAN-FTA-Boosting-global-and-regional-growth-1DcV6soGrBK/p.html